Page 54 - ศาสนาและหน้าที่พลเมือง ประถมศึกษา สค11002
P. 54

3.3 กฎหมายเปนขอบังคับที่ใชไดทั่วไปกับทุกคน โดยไมเลือกปฏิบัติ

                             3.4 ผูที่ฝาฝนกฎหมายตองไดรับโทษ

                                            ี
                                         ้
                                    ็
                         4. ความจําเปนที ตองเรยนรูกฎหมาย
                                                ้
                              ในฐานะที่เราเปนสมาชิกของสังคมจึงมีความจําเปนตองศึกษาและเรียนรู ทําความเขาใจใน
                                           
                                                                        
                  กฎหมายตาง ๆ ที่เกี่ยวของกับตัวเรา และสังคมที่เราอยู ทั้งนี้ก็เพื่อกอเกิดประโยชนตอตนเอง ซึ่งไดแก
                             4.1 รูจักระวังตน ไมเผลอ หรือพลั้งกระทําความผิดโดยไมรูตัว เนื่องมาจากเพราะไมรูกฎหมาย
                  และเปนเหตุใหตองไดรับโทษตามกฎหมาย

                             4.2 ไมใหถูกผูอื่นเอาเปรียบและถูกฉอโกง โดยที่เราไมมีความรูเรื่องกฎหมาย
                             4.3 กอเกิดประโยชนในการประกอบอาชีพ ถาหากรูหลักกฎหมายที่เกี่ยวกับการประกอบอาชีพของ

                  ตนเอง แลวยอมจะปองกันความผิดพลาดอันเกิดจากความไมรูกฎหมายในอาชีพได

                             4.4 กอใหเกิดประโยชนทางการเมืองการปกครองของประเทศ เพราะเมื่อประชาชนรูจักใช
                  สิทธิและหนาที่ของตนเองตามกฎหมายแลว ยอมทําใหสังคมเกิดความสงบเรียบรอย

                         5. ประเภทของกฎหมาย

                             ในชีวิตประจําวันบุคคลมเสรีภาพในการดํารงชีวิตตามระบบการเมืองการปกครอง ระบบ
                                                   ี
                  กฎหมาย และระบบเศรษฐกิจ เราจะตองรูจักสิทธิและหนาที่ของตนเอง และรูจักใชสิทธิที่มีอยูไป

                  ประกอบอาชีพ และสรางความสัมพันธกับบุคคลตาง ๆ โดยมีสิทธิเลือกไดวาจะดําเนินชีวิตสวนตัว

                  อยางไร แตตองอยูภายในขอบเขตที่กฎหมายกําหนด บุคคลจึงตองขวนขวายหาความรูเกี่ยวกับกฎหมาย
                  เพื่อใชติดตอสื่อสาร การดําเนินวิถีชีวิตประจําวัน ซึ่งกฎหมายที่เกี่ยวของกับชีวิตประจําวัน สามารถ

                  แบงไดเปน

                              .  กฎหมายอาญา

                                กฎหมายอาญา (Criminal Law) เปนกฎหมายมหาชนที่บัญญัติถึงความสมพันธระหวางรัฐ
                                                                                           ั
                  กับเอกชนที่อยูใตอํานาจปกครองของรัฐ ผูที่ฝาฝนจะตองไดรับโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา และ

                  พระราชบัญญัติอื่นที่บัญญัติถึงการกระทําที่เปนความผิดและโทษทางอาญา เชน ความผิดตาม

                  พระราชบัญญัติจราจรทางบก อาวุธปน เครื่องกระสุนปน วัตถุระเบิด ยาเสพติดใหโทษ ความผิดอันเกิดจาก
                  การใชเช็ค ศุลกากร การพนัน ปาไม ปาสงวน เปนตน

                                เนื่องจากกฎหมายอาญามีสภาพบังคับ คือ มีโทษที่จะทําใหบุคคลไดรับผลถึงแกชีวิต

                  รางกาย เสรีภาพ ทรัพยสิน เชน ประหารชีวิต จําคุก กักขัง ปรับริบทรัพยสิน ดังนั้น จึงตองมีหลักประกัน

                  แกบุคคลดังที่บัญญัติไวในกฎหมายรัฐธรรมนูญวา บุคคลจะไมตองรับโทษอาญา เวนแตจะไดกระทําการ
                  อันกฎหมายที่ใชอยูในเวลาที่กระทํานั้น บัญญัติเปนความผิดและกําหนดโทษไว และโทษที่จะลงแก

                  บุคคลนั้น จะหนักกวาโทษที่กําหนดไวในกฎหมายที่ใชอยูในเวลาที่กระทําความผิดมิได กลาวคือ บุคคล

                  จะไดรับโทษทางอาญาจะตองไดกระทําการใดที่มีกฎหมายขอหามไว ถาไมมีกฎหมายก็ไมมีความผิด
                  ไมมีโทษ เชน ความผิดฐานสูบบุหรี่ในที่ที่กําหนด เดิมไมมีความผิดแตเมื่อประกาศใชพระราชบัญญัติ

                  คุมครองสุขภาพของผูไมสูบบุหรี่ พ.ศ. 2535  แลวผูที่สูบบุหรี่ในเขตปลอดบุหรี่ หรือสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ


                                                                                                        46
   49   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59