Page 55 - ศาสนาและหน้าที่พลเมือง ประถมศึกษา สค11002
P. 55

ที่กําหนดยอมมีความผิดและจะตองไดรับโทษ  โทษตามประมวลกฎหมายอาญา มี 5 สถาน คือ ประหารชีวิต
                  จําคุก กักขัง ปรับ ริบทรัพยสิน

                                นอกจากนี้ยังมีการรอการลงโทษ หรือรอการลงอาญา เมื่อบุคคลกระทําความผิดและ

                                                                          
                  จะไดรับโทษจําคุกไมเกิน 2 ป ผูนั้นอาจไดรับความกรุณาจากศาลไมตองไดรับโทษจําคุกในเรือนจํา เพราะ
                  ผูนั้นไมเคยไดรับโทษจําคุกมากอน เมื่อไดพิจารณาถึง อายุ ประวัติ ความประพฤติ สติปญญา การศึกษา

                                                                                                  
                  อบรม สุขภาพ ภาวะแหงจิต นิสัย อาชีพ สงแวดลอม สภาพความผิด หรือเหตุอื่นอันควรปรานีแลว ศาลจะ
                                                     ิ่
                  กําหนดโทษไว หรือรอการลงโทษไว ที่เรียกกันวา “รอการลงอาญา”

                                .  กฎหมายแพง
                                          ่
                                     กฎหมายแพง คือ กฎหมายที่บัญญัติถึงความสัมพันธของบุคคล เปนกฎหมายสารบัญญัติ

                  และเปนกฎหมายเอกชนที่มีความสําคัญแกชีวิตของบุคคลตั้งแตแรกเกิดจนสิ้นสภาพบุคคลไป

                                 กฎหมายพาณิชย คือ กฎหมายที่บัญญัติถึงความสัมพันธของบุคคลที่มีอาชีพคาขาย และ

                  นักธุรกิจกลาวถึงระเบียบหลักปฏิบัติในทางการคาที่บุคคลในอาชีพคาขายและนักธุรกิจจะตองปฏิบัติใน
                  การเกี่ยวของสัมพันธกัน เชน กฎหมายเกี่ยวกับหุนสวนบริษัท ตั๋วเงิน ประกันภัย การขนสงสินคา

                                  ประเทศไทยไดรวมบัญญัติกฎหมายพาณิชยเขาไวในประมวลกฎหมายแพง จึงรวม

                  เรียกวา “ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย”
                             สภาพบังคับในทางแพง โทษหรือสภาพบังคับในทางแพงที่จะใหผูฝาฝนไมปฏิบัติตาม
                                                 ่
                  กฎหมาย  คือ การใชคาสินไหมทดแทนหรือคาเสียหาย หรือใหชําระหนี้ดวยการสงมอบทรัพยสินให

                  กระทําการ หรืองดเวนกระทําการอยางใดอยางหนึ่งตามมูลหนี้ที่มีตอกันระหวางเจาหนี้และลูกหนี้ เชน
                  บังคับใหชําระหนี้เงินกูพรอมดวยดอกเบี้ย บังคับใหผูขายสงมอบหรือโอนทรัพยสินใหแกผูซื้อตามสัญญา

                  ซื้อขาย หรือใหใชคาสินไหมทดแทนในกรณีละเมิดขับรถยนตชนผูอื่นบาดเจ็บ หรือทําใหทรัพยสิน

                  เสียหาย




                                           ้
                    ื
                                                                   ั
                  เรองที    กฎหมายที เกี ยวของกับตนเองและครอบครว
                             กฎหมายในชีวิตประจําวันที่เกี่ยวของกับตนเอง และครอบครัว ไดแก กฎหมายดังตอไปนี้
                                                ื
                             1.  กฎหมายเกี ยวกับชอบุคคล
                                                  ู
                                                                                                     ื่
                                 พระราชบัญญัติขอมลสวนบุคคล กําหนดไววา (มีสัญชาติไทย ตองมีชื่อตัวและชอสกุล
                                                     
                  สวนชื่อรองมีหรือไมมีก็ได)
                               การตั้งชื่อตัวตองไมใหพองกับพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริยและพระนามของ
                  พระราชินี หรือราชทินนาม และตองไมมีคําหยาบคาย ชื่อตัวมีกี่พยางคก็ได และมีความหมายดี

                               การตั้งชื่อสกุลไมเกิน 10 พยัญชนะ (ยกเวนราชทินนามเกา)

                               ในเรื่องชื่อสกุล เดิมกฎหมายกําหนดใหหญิงที่มีสามีตองเปลี่ยนชื่อสกุลของตนมาใช
                  ชื่อสกุลของสามี แตปจจุบันกฎหมายไดมีการแกไขใหมมีผลตามพระราชบัญญัติชื่อบุคคล (ฉบับที่ 3)

                  พ.ศ. 2548 ดังนี้

                                                                                                        47
   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60