Page 78 - แผนการจัดการเรียนรู้ ม.ปลาย
P. 78

73


                                                          ใบความรู้ที่ 1
              การออกเสียงพยัญชนะ sz ch sh
                     a) การออกเสียง sz
              การออกเสียง s และ z ในการออกเสียง s ที่เป็นพยัญชนะต้นคำจะออกเสียงเหมือนตัว ส ขณะที่การออกเสียงตัว z จะออกเสียงเหมือน ซ
                                                             ้
              แต่จะต้องออกเสียงก้อง มีการสั่นของเสียง (Voice sound) โดยใชลิ้นแตะที่โคนฟนและออกเสียงสอดแทรกออกมาด้วยเสียงผึ้งบิน
                                                                        ั
                     b) การออกเสียง sh ch
                                                                           ่
              คำในภาษาอังกฤษที่คนไทยมีปัญหาในการออกเสียงคำหนึ่ง คือ คำที่มีเสียง sh เชน She, English และ Shoes เป็นต้น โดยส่วนใหญ่
              มักจะออกเสียงเป็นเสียงตัว ช ช้าง ซึ่งมีความใกล้เคียงกับเสียง ch มากกว่า จะไม่เป็นปัญหา ถ้าหากว่าคำนั้นมีคำเดียวในภาษาอังกฤษ แต่
              ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะว่าคำในภาษาอังกฤษที่ออกเสียงเหมือนกันแต่ต่างกันที่เสียง sh และ ch มีอยู่หลายคำ
              การออกเสียง sh และ ch
                     เสียง sh ออกเสียงคล้าย ช ช้าง แต่ต้องห่อปาก และพ่นลมตลอดค่อนข้างยาว
                     เสียง ch ออกเสียงคล้าย ช ช้าง มากกว่าเสียง sh มีการกักลมในปากก่อนออกเสียงและเสียงพ่นลมไม่ยาวเหมือนเสียง sh
              ข้อสังเกต
                     บางครั้งเสียง sh หรือ ch อาจปรากฏในคำศัพท์อื่นที่ไม่ปรากฏรูปพยัญชนะ sh หรือ ch แต่ออกเสียงเช่นเดียวกัน
              ตัวอย่าง ออกเสียง sh ออกเสียง ch
                     Mission (มิชชั่น) Nature (เนเชอร์)
                     Ocean (โอเชี่ยน) Measure (เมเชอร์)
                     Tissue (ทิชชู)
              การออกเสียงคำกริยาที่เติม ed
                     คำกริยาช่องที่ 2 (Past form of verb) เป็นคำกริยาที่ใช้ในประโยคที่เขียนด้วย Past Simple Tense (อดีต) ซึ่งการเปลี่ยน
                     คำกริยาให้เป็นรูปช่องที่ 2 มี 3 วิธี คือ
                     1) โดยการเติม ed ข้างท้ายกริยา เช่น
                         กริยาช่องที่ 1 กริยาช่องที่ 2
                         walk walked
                         learn learned
                         talk talked
                     2) โดยการคงรูปกริยาตัวเดิม เช่น
                         กริยาช่องที่ 1 กริยาช่องที่ 2
                         cut cut
                         put put
                         let let
                     3) โดยการเปลี่ยนรูปกริยา
                                 ี่
                         กริยาช่องท 1 กริยาช่องที่ 2
                         make made
                         go went
                         come came
              หลักในการออกเสียงคำกริยาช่องที่ 2 ที่เติม ed
                     กริยาช่องที่ 2 ที่เติม ed มีหลัก 3 ประการในการออกเสียงดังนี้
                     1. ออกเสียง/id/ = อิด(เอ็ด) สำหรับคำกริยาที่ลงท้ายด้วย t และ d เช่น
              กริยาช่องที่ 1 กริยาช่องที่ 2
                     want (ว๊อนท) wanted (ว๊อนทิด)
                     need (นีด) needed (นีดดิด)
                     cheat (ชีท) cheated (ชีททิด)
   73   74   75   76   77   78   79   80   81   82   83