Page 10 - การเลี้ยงปลา_Neat
P. 10
6
2. ปุ๋ยพืชสด ได้แก่ ส่วนของพืชผัก และวัชพืชที่มีใยพืชน้อย
่
3. ปุ๋ยหมัก ได้แก ปุ๋ยที่เกิดจากการหมักของเศษพืชผสมกับมูลสัตว์ และแบคทีเรีย
4. ปุ๋ยเคมี ได้แก่ ปุ๋ยวิทยาศาสตร์สูตรต่างๆซึ่งประกอบด้วยธาตุอาหารหลัก คือ
ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโปแตสเซียม
อัตรำกำรใช้ปุ๋ย
ั
ปุ๋ยสดจะท าให้มีก๊าซพวกแอมโมเนียละลายอยู่ในน้ ามากเกินไปซึ่งเป็นอนตรายต่อปลา
การใส่ปุ๋ยคอกในบ่อใช้วิธีโยนให้กระจายไปทั่ว ๆ บ่อ หากเป็นปุ๋ยพชสดหรือปุ๋ยหมัก ควรกองสุมไว้
ื
ตามมุมบ่อภายในคอกไม้ไผ่ที่ล้อมเป็นกรอบไว้เพื่อไม่ให้ปุ๋ยกระจายไป
ื
ปุ๋ยคอกใช้ในอตราไม่เกิน 200-250 กิโลกรัม/ไร่ /เดือน ปุ๋ยพชสดไม่เกิน 1200-1500
ั
กิโลกรัม/ไร่ และปุ๋ยหมัก 600-700 กิโลกรัม/ไร่ ปริมาณปุ๋ยที่ใส่ได้พอดี สามารถสังเกตได้จากสีน้ า
ของบ่อจะต้องเป็นสีเขียวหากน้ าเป็นสีเขียวเข้มหรือออกสีน้ าตาลเข้มแสดงว่าใส่ปุ๋ยคอกมากเกินไป
ควรเพิ่มน้ าเข้าบ่อ
ข้อควรระวง การใส่ปุ๋ยเคมีจะมีปฏิกิริยาค่อนข้างเร็วดังนั้นต้องท าด้วยความระมัดระวัง
ั
และใช้ปริมาณน้อย
กำรใส่ปูนขำว
ปูนขาวจะช่วยปรับสภาพความเป็นกรดด่างให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อการเลี้ยงปลา
ิ่
ระหว่าง 6.5-8.5 ช่วยก าจัดเชื้อโรคและศัตรูปลาและช่วยเพมประสิทธิภาพของปุ๋ยที่ใส่ในบ่อปลา
การใช้ปูนขาวในขณะที่มีปลาอยู่ในบ่อควรใช้วิธีละลายปูนในถังน้ าทีละเล็กน้อย แล้วสาดให้ทั่ว ไม่ควร
เทเป็นผง ๆ ลงในน้ า
กำรแก้ไขน้ ำขุ่นและน้ ำเค็ม
ั
บ่อปลาที่ขุดใหม่มักจะประสบปัญหาน้ าขุ่นเนื่องจากตะกอนดินที่ถูกพดพามาหรือภายใน
บ่อปลาเอง ความขุ่นนี้อาจท าให้ปลาเจริญเติบโตช้า ตะกอนดินอาจไปอุดตันเหงือกปลาได้
กำรแก้ไขปัญหำน้ ำขุ่นอำจท ำได้โดย
1. ใช้สารเคมี เช่น สารส้มหรือสารอนๆวิธีนี้จะเป็นการแก้ไขแบบชั่วคราวเท่านั้น และจะ
ื่
ท าให้มีปัญหาอื่น ๆ ตามมาอีก เช่น น้ ามีสภาพเป็นกรดมากขึ้น

