Page 5 - การเลี้ยงปลา_Neat
P. 5
เรื่องที่ 1
ควำมรู้เกี่ยวกับกำรเลี้ยงปลำ
คุณสมบัติของน้ ำที่น ำมำใช้เลี้ยงปลำ
ุ
ุ
ุ
1. อณหภูมิหากอณหภูมิสูงปริมาณออกซิเจนจะละลายได้น้อยน้ าที่อณหภูมิต่ าปริมาณ
ออกซิเจนจะละลายได้สูงปกติปลาชอบอาศัยอณหภูมิ ระหว่าง25-32 องศาเซลเซียส
ุ
2. ความขุ่นขุ่นของน้ าตามธรรมชาติเกิดจากสารอินทรียสาร เช่น ตะกอน โคลนตมซึ่งเป็น
ุ
อปสรรคต่อการสังเคราะห์แสงของพชน้ าความขุ่นของน้ าจะประกอบด้วย แพลงตอนสีเขียว หากมี
ื
มากเกินไปก็จะเป็นอันตรายต่อปลาได้
3. ความเป็นกรดด่างที่มีค่าpH อยู่ระหว่าง 6.5-8.5 ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นเหมาะแก่การ
เลี้ยงปลามากที่สุดน้ าเป็นกรดมากปลาจะไม่อยากกินอาหาร ต้านทานโรคต่ าน้ าเป็นด่างมากปลา
จะตาย
4. คาร์บอนไดออกไซด์คาร์บอนไดออกไซด์จะมาจากการหายใจของพืชและสัตว์การสลาย
อินทรียสารจะหลีกเลี่ยงไม่อยู่ในน้ าที่มีระดับคาร์บอนไดออกไซด์สูงเกินกว่าระดับ 5 ppm
5. ก๊าซแอมโมเนียก๊าซที่มีพษต่อปลามากเกิดจากเศษอาหารที่หลงเหลืออยู่และมูลต่าง ๆ
ิ
ที่ปลาขับถ่ายออกมาให้ปลาเบื่ออาหาร เคลื่อนไหวช้าลง
6. ก๊าซไข่เน่าจากการหมักหมมและการย่อยสลายอนทรียสารในก้นบ่อจะเกิดปัญหานี้
ิ
ถ้าให้อาหารปริมาณมากเพียง 0.1-0.2 ppm ก็อาจท าให้ปลาตายได้
ประเภทของบ่อเลี้ยงปลำ
1. บ่ออนุบาลเป็นบ่อส าหรับเลี้ยงปลาอ่อนหลังจากออกจากไข่ใหม่ ๆ หรือในระยะที่ยังไม่
สามารถป้องกันภัยจากศัตรูได้ บ่อเลี้ยงลูกปลาไม่ควรมีขนาดใหญ่มากนัก สามารถใช้บ่อดิน บ่อซีเมนต์
ตั้งแต่ขนาดเพียงไม่กี่ตารางเมตรถึง 800 ตารางเมตร
2. บ่อเลี้ยงพ่อแม่ปลาใช้เป็นบ่อเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ควรจะมีขนาดเนื้อที่ประมาณ 400-1600
ตารางเมตร ความลึกประมาณ 1.5 เมตร
3. บ่อเลี้ยงนิยมบ่อดินขนาดบ่อควรขึ้นอยู่กับชนิดของปลาและขนาดปลาที่เลี้ยง
วิธีกำรสร้ำงบ่อ สร้ำงได้ 2 แบบคือ
1. บ่อแบบขุดดินออก พนก้นบ่ออยู่ต่ ากว่าระดับดินเดิมไม่ต้องท าคันบ่อให้แข็งแรง
ื้
เหมาะกับพื้นที่ลุ่ม เช่น ในนาข้าวเพียงแต่ขุดดินลงไปแล้วเสริมคันบ่อ

