Page 226 - หนังสือการเลี้ยงโคเนื้อ
P. 226
้ ้
การเลียงโคเนือ 221
่
้
่
่
อาการในคน ไข้ขึนสูงๆต าๆ ไม่สม าเสมอ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ซึม เหงือออกมาก หนาวสั่น
ปวดเมื่อย ปวดตามข้อ ตับ ม้ามโต ตาฟาฟาง ท้องร่วง อัณฑะอักเสบ มีผื่นแดงตามผิวหนัง ต่อมาจะ
้
้
็
ื
กลายเปนฝหนองและเปนเนอตายได้
ี
็
็
้
้
่
็
ี
่
ปองกันโรคนีได้โดยการเจาะตรวจเลือดทุกปแล้วก าจัดตัวทีเปนโรคออกไป ในคอกสัตว์ทีเปนโรค
่
้
ให้ราดยาฆ่าเชือโรคและทิงไว้ 1 เดือน ก่อนจะนาสัตว์ใหมเข้าคอก ก าจัดลูกที่แท้ง รก นาคร า อุจจาระ
้
้
่
ั
็
ปสสาวะ ของสัตว์ทีเปนโรคโดยเผาหรือฝง แล้วท าความสะอาดพื้นทีนั้นด้วยนายาฆ่าเชือ ไมนาโคทีเปน
่
่
้
่
็
ั
้
่
โรคนีเข้ามาในฝูง และควรฉีดวัคซีนปองกันให้ลูกโคเพศเมียอายุ 3 ถึง 8 เดือน
้
้
โรคแอนแทรกซ์ (Anthrax)
เปนโรคระบาดทีร้ายแรง เกิดจากเชือบาซิลลัส แอนทราซิส(Bacillus anthracis)ซึงมีคุณสมบัติใน
้
่
่
็
การสร้างสปอร์ได้เมื่อสัมผัสกับอากาศ มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมและสามารถอยู่ในดินได้มากก
้
กว่า 1 ป จึงพบการระบาดของโรคนีซ ้าๆในพืนทีทีเกิดโรคนเสมอ
่
ี
่
้
้
ี
่
็
้
้
้
โรคนีติดต่อจากการกินนาหรืออาหารทีมีเชือโรคปนอยู แมลงดูดเลือดต่างๆเปนพาหะ สัตว์กิน
่
เนือหรือนกบางชนิดทีนาพาซากสัตว์ตายจากโรคระบาดนี ้ การหายใจเอาสปอร์ของโรคนีเข้าสู่ร่างกาย
่
้
้
ี
่
้
้
้
่
่
็
หรือเข้าทางผิวหนังทีเปนแผล และเมื่อนาท่วมทีจะพัดพาสปอร์ของเชือโรคนไปในทีไกลๆ
็
้
โคเปนโรคอาจตายโดยเฉียบพลันโดยแสดงอาการให้เห็น แต่โดยมากมักจะล้มและชัก กล้ามเนือ
้
ิ
ของร่างกายสั่น กระตุก เคียวฟน หายขัด จะมีโลหิตซึ่งไม่แข็งตัวสีด าไหลออกมาตามช่องเปดต่างๆซาก
ั
้
จะอืดอย่างรวดเร็ว แต่จะไมแข็งตัว โดบางตัวอาจจะแสดงอาการไข้สูง ซึม กล้ามเนือเกร็ง หัวและหูตก
่
หายใจถีเร็ว ระยะแรกจะมีท้องผูก ต่อมาจะท้องร่วงและมีเลือดปน ประมาณ 1 ถึง 2 วัน โคจะตาย
่
่
้
ปองกันวัคซีนปองกันโรคนปละครั้ง โคทีตายจากโรคนี ห้ามช าแหละซาก ต้องเผาหรือฝงฝนหลุม
ั
ี
ี
้
้
้
และบริเวณรอบๆและให้หากิ่งไม้หรือก้อนหินทับปากหลุมปองกันการขุดคุ้ยของสัตว์อื่น
้
โรคปากและเท้าเปอย (Foot and mount Disease)
่
ื
์
่
็
้
่
เปนโรคระบาดเกิดจากเชือไวรัสทีพบมีอยู 7 ไทป(type) ในประเทศไทยทีพบมากมี 3 ไทป คือ
่
์
่
์
A, O, และ Asia I โดยทั่วไปลักษณะของโรคแต่ละไทปจะคล้ายกัน แต่จะไมมีผลคุ้มกันโรคระหว่างไทป ์
้
้
่
อื่น ทั้งนีในสัตว์ทีหายจากโรคนีจะมีภูมิคุ้มกันโรคได้ประมาณ 2 ปี
โรคติดต่อของโดยการสัมผัสโดยตรงระหว่างสัตว์ดีและสัตว์ปวย โดยการกินนาหรืออาหารที ่
้
่
็
้
็
่
ื
่
้
ปนเปอนเชือ ติดต่อโดยพาหะอืน เช่น คน นก สุนัข เปนต้น และจากโคทีหายปวยจะเปนพาหะในการ
่
กระจายโรค
็
โคจะเปนไข้ เบืออาหาร หยุดเคียวเอื้อง นาลายฟูมปาก พบตุ่มใส่ๆขนาดประมาณ 1 ถึง 2 ซม.
่
้
้
้
่
ี
็
ที่เยือบุช่องปาก ลิน ริมฝปาก เหงือกและเพดานปาก จะแตกออกในเวลา 24 ชั่วโมง เปนแผลเจ็บปวด
มาก หากไมมีการติดเชือแบคทีเรียแผลจะหายในเวลาประมาณ 7 วัน ตุ่มเหล่านีจะเกิดที่ไรกีบและกีบ
้
้
่
้
เท้า หลังจากเกิดที่ปากแล้ว 2 ถึง 5 วัน ท าให้เดินล าบาก และเจ็บ มักจะพบการติดเชือแบคที่เรียท าให้
่
้
แผลลุกลามจนทั่วกีบหลุดได้ อาจพบเม็ดตุ่มเหล่านีที่บริเวณเต้านมและหัวนม ซึงอาจจะเกิดลุกลามจน
้
กลุ่มวิจัยและพัฒนาโคเนือ กองบ ารุงพันธุ์สัตว์ กรมปศุสัตว์

