Page 120 - ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับซากดึกดำบรรพ์
P. 120
หน้า 115 ความรู้เบื ้ องต้นเกี ่ ยวกับซากดึกดำาบรรพ ์
ร่องรอยบรรพชีวินหรือรอยซากดึกดำาบรรพ ์
(Trace fossils or Ichnofossils)
ร่องรอยที่เกิดจากกิจกรรมของสิ่งมีชีวิตในอดีตเก็บรักษาไว้ในชั้นหิน ซึ่งแสดงให้เห็น
พฤติกรรมการดำารงชีวิตของสิ่งมีชีวิตในอดีต รวมถึงสภาพแวดล้อมบรรพกาลในบริเวณที่สิ่งมีชีวิต
นั้นอาศัยอยู่ด้วย วิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับร่องรอยของสิ่งมีชีวิตในอดีต เรียกว่า รอยชีวินวิทยา
(Ichnology) ร่องรอยบรรพชีวิน สามารถจำาแนกได้ 5 รูปแบบ ดังนี้
1. รอยเหยียบย่ำา (Fossil tracks)
2. รอยชอนไชและรอยเจาะ (Burrow and Boring fossils)
3. ซากดึกดำาบรรพ์มูลสัตว์ (Coprolites)
4. ซากดึกดำาบรรพ์ไข่ (Egg fossils)
5. กรวดย่่อยอาหาร (Gastroliths)
1. รอยเหยียบย่ำา (Fossil tracks)
รอยเหยียบย่ำาเป็นร่องรอยที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต เช่น การเดินและ
การวิ่ง แสดงให้เห็นพฤติกรรมการดำารงชีวิตของสิ่งมีชีวิตในอดีต เช่น การหาอาหารและการล่า
เหยื่อ ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบรอยตีน (Foot print หรือ Track) หากเกิดเป็นแนวทางเดินไปใน
ทิศทางใดทิศทางหนึ่ง จะเรียกว่า รอยทางเดิน (Trail หรือ Trackway) หรือในบางกรณีอาจพบ
ร่องรอยการประทับของผิวหนังอันเกิดจากการล้มหรือไล่ล่าเหยื่อ ทั้งนี้ กระบวนการเก็บรักษา
รอยเหยียบย่ำาบนชั้นหินนั้นต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง เช่น ชั้นตะกอนต้องอ่อนนุ่ม และร่องรอย
ต้องไม่ถูกทำาลายไปก่อนปิดทับตะกอนชุดถัดไป
ำ
่
ำ
ซากดึกดาบรรพ์รอยเหยียบยาสวนใหญ่มักเป็นรอยตีนและรอยทางเดินของสัตว ์
ดึกดำาบรรพ์ขนาดใหญ่ เช่น ไดโนเสาร์ จระเข้ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดยในประเทศไทยพบบริเวณ
ที่ราบสูงโคราช เช่น บริเวณจังหวัดขอนแก่น กาฬสินธุ์ นครพนม เลย ชัยภูมิ หนองบัวลำาภู
แผนภาพจำาลองการเกิดรอยตีนสัตว์ดึกดำาบรรพ์

