Page 68 - ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับซากดึกดำบรรพ์
P. 68
หน้า 63 ความรู้เบื ้ องต้นเกี ่ ยวกับซากดึกดำาบรรพ ์
13. แกรปโตไลต์ (Graptolites)
อนุกรมวิธาน : อาณาจักรสัตว์ (Kingdom Animalia)
ไฟลัม เฮมิคอร์ดาตา (Phylum Hemichordata)
ชั้น เทอโรบรานเคีย (Class Pterobranchia)
ชั้นย่อย แกรปโตลิธินา (Subclass Grabtolithina)
ลักษณะทั่วไป : เป็นสัตว์ที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม (colony) มีโครงร่างแข็งคาดว่าสร้าง
จากสารจำาพวกไคติน เรียกว่า theca เป็นที่อยู่ของตัว เรียกว่า zooid เรียงต่อกันเป็นแถวยาว
คล้ายกับกิ่งไม้หรือใบไม้ มีทุ่นช่วยในการลอยน้ำาอยู่ใกล้ผิวน้ำา แกรปโตไลต์ถือเป็นซากดึกดำาบรรพ์
ดัชนี (Index fossil) ที่สำาคัญในช่วงยุคออร์โดวิเชียนจนถึงยุคดีโวเนียน (Ordovician-Devonian)
เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่พบมากที่สุด และมีลักษณะเปลี่ยนไปตามแต่ละยุค
ช่วงเวลาที่ปรากฎบนโลก : ยุคแคมเบรียนตอนกลาง (ประมาณ 510 ล้านปีก่อน)
ุ
ึ
ุ
์
ื
่
ี
่
ิ
ู
์
สถานะปัจจุบัน : การศกษาในอดตเชอวาแกรปโตไลตสญพนธไปหมดแลวเม่อยคคารบอนเฟอรัส
์
้
ื
ั
ตอนปลาย (ประมาณ 320 ล้านปีก่อน) แต่การศึกษาใหม่เชื่อว่า สกุล Rhabdopleura เป็นกลุ่ม
แกรปโตไลต์ที่หลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน (มีจำานวนกว่า 600 สปีชีส์ ทั้งที่มีชีวิตและสูญพันธุ์ไปแล้ว)
แหล่งที่อยู่อาศัย : อาศัยอยู่ในทะเล
หินที่พบบ่อย : หินดินดาน
ลักษณะซากดึกดำาบรรพ์ : เป็นรอยพิมพ์คาร์บอนประทับบนเนื้อหิน คล้ายรอยขีดเขียน หรือ
แผ่นฟิล์มรูปร่างเรียวยาว บางชนิดก็ขดเป็นวง มีขอบเป็นรอยหยักคล้ายใบเลื่อย
แหลงซากดกดาบรรพ์แกรปโตไลต์สามารถพบได้ในชั้นหินดินดาน เช่น บริเวณจังหวัด
่
ำ
ึ
สตูล นครศรีธรรมราช กาญจนบุรี เชียงใหม่
โครงสร้างของแกรปโตไลต์
(ดัดแปลงจาก Brown, 1989)

