Page 257 - จันทร์จืรา เดชแพง
P. 257
152
จากรูปที่ 5.2 เมื่อผ่านกระแสสลับความถี่สูงเข้าไปในเส้นลวดตัวน าจะเกิดฟลักซ์แม่เหล็ก
จ านวนมากในสนามแม่เหล็กไฟฟ้ าปฐมภูมิมีทิศทางพุ่งเข้าหาวัสดุตัวน าไฟฟ้ า และสนามแม่เหล็ก
ไฟฟ้ าปฐมภูมินี้จะสร้างกระแสไหลวน เป็นวงกลมมีความหนาแน่นมากใกล้ๆ ผิวหน้าและไหลลึกลง
ไปน้อย เรียกว่าปรากฏการณ์ที่ผิว (Skin Effect หรือ Depth of Penetration) ในขณะที่ตัวกระแสไหลวน
เองก็จะสร้างสนามแม่เหล็กเหนี่ยวน าขึ้นต่อต้านการเปลี่ยนแปลงของสนามแม่เหล็ก ปฐมภูมิด้วย
เรียกว่า สนามแม่เหล็กทุติยภูมิ (Secondary Magnetic Field) ซึ่งมีเส้นแรงแม่เหล็กทิศทางตรงข้ามกับ
สนามแม่เหล็กไฟฟ้ าปฐมภูมิ ในการตรวจสอบหาจุดบกพร่องจะใช้วิธีวัดค่าการเปลี่ยนแปลงของ
อิมพีแดนซ์ (Impedance) ของขดลวดหรือใช้วิธี วัดค่าความเปลี่ยนแปลงแรงดันไฟฟ้าของขดลวด
5.4. เครื่องมือและอุปกรณ์ตรวจสอบด้วยกระแสไหลวน
5.4.1 เครื่องตรวจสอบด้วยกระแสไหลวน
ใช้ตรวจสอบรอยร้าวหรือความผิดปกติของโลหะที่ผิวหรืออยู่ลึกลงไปใต้ผิวบริเวณที่มี
รอยร้าวหรือมีฟองอากาศจะท าให้กระแสไหลวนผิดปกติสนามแม่เหล็กทุติยภูมิก็จะผิดปกติไปด้วย
ระบบการรับรู้ที่หัวตรวจสอบกระแสไหลวนจะแสดงสัญญาณไปที่จอภาพให้ผู้ตรวจสอบทราบ
หลักการท างานคือปล่อยกระแสสลับความถี่ สูงผ่านเข้าสู่ขดลวดตัวนาของหัวตรวจสอบเพื่อสร้าง
สนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้นและเมื่อน าหัวตรวจสอบเข้าใกล้วัสดุงานที่เป็นตัวน าไฟฟ้าตจะเกิดการเหนี่ยว
น าของสนามแม่เหล็กไฟฟ้าสร้างกระแสไหลวนมีทิศทางตั้งฉากกับสนามแม่เหล็กบนพื้นผิวของวัสดุ
ตัวน านั้น ซึ่งผลของกระแสไหลวนก็จะท าให้เกิดการเปลี่ยนแปลงค่าอิมพีแดนซ์ของขดลวดที่หัว
ตรวจสอบ ต้นก าเนิดกระแสไฟฟ้ าสลับไหลผ่านขดลวด ขดลวดฟลักซ์แม่เหล็กจากสนามแม่เหล็ก
กระแสไหลวนเป็นวงกลม สนามแม่เหล็กทุติยภูมิวัสดุตัวนาไฟฟ้า
รูปที่ 5.3 แสดงเครื่องตรวจสอบและหัวตรวจสอบด้วยกระแสไหลวน

