Page 114 - สาราสารกถา พระธรรมพุทธิมงคล เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จังหวัดสุพรรณบุรี.
P. 114
71
พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘)
�
ื
ี
คือเราจะต้องพยายามทาความเข้าใจเร่องท่เราจะไปพูดด้วย
�
�
�
ั
ตวของเราเอง ไม่ใช่เราจะจาเอาตาราไปพูด จาเอาแบบไปพูด
�
ถ้าจาเอาไปพูด มันไม่ใช่สัมมาสัมพุทธะ คือ เราจะพูดเร่องอะไร
ื
ื
เราจะต้องเข้าใจแจ่มแจ้งในเร่องน้นด้วยตัวเองก่อน เพราะนักสอน
ั
ที่ดีจะต้องเป็นอย่างนี้ เราต้องไปท�าความเข้าใจให้แจ่มแจ้ง
สมมติว่า เราจะไปพูดเร่องทาน เราก็จะต้องทําความ
ื
ื
ี
เข้าใจให้แจ่มแจ้งในเร่องทาน มันดีจริงๆ หรือท่พระพุทธเจ้า
สอนให้ให้ทาน เราต้องไปวิเคราะห์ไปวิจัย เราทําอย่างไรเราจึงจะ
ื
เข้าใจ เม่อมีข้อโต้แย้งกลับมา เราจะได้ตอบได้ แก้ได้ สมมติว่า
ั
เราไปสอนเร่องทาน สังคหวัตถุมีทานเป็นตัวแรกน้น มีคน
ื
ึ
เกดค้านข้นมาว่า พวกท่านก็สอนได้สอนให้ให้ทาน เพราะไม่
ิ
ั
สอนเร่องน้ท่านอยู่กันไม่ได้ ต้งแต่หัวโจกพระพุทธองค์มาเลย
ื
ี
พระพุทธองค์ก็สอนแต่เรื่องให้ทาน เพราะพระพุทธองค์ก็ด ี
สาวกของพระพุทธองค์ก็ดี อยู่ได้ด้วยการให้ทาน ถ้าไม่มีการ
ื
่
็
ี
็
ี
ให้ทาน ศาสนาอยู่ไม่ได้ ท่ท่านสอนเรองน้ กเพราะเหนแก่ตัว
ทั้งนั้น เราจะตอบเขาอย่างไร ถ้าเขาโต้แย้งมาอย่างนี้
ี
ถ้าเราไม่มีความเข้าใจเก่ยวกับเร่องน้ ไม่สามารถจะหยิบ
ี
ื
จะยกเอามาอธิบายได้ว่า การให้ทานน่ะมันดีจริง หรือว่ามันด ี
ี
ี
เฉพาะเรา อันน้แหละผมคิดว่าเราจะต้องใช้พระคุณข้อน้ (สัมมา-
สัมพุทธะ) คือจะต้องหยิบยกเอาเร่องทานน้มาวิเคราะห์มาวิจัย
ื
ี
ี
ว่า พระพุทธเจ้าสอนให้ให้ทานน้ มันดีจริงๆ หรือเปล่า หรือม ี

