Page 207 - สาราสารกถา พระธรรมพุทธิมงคล เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จังหวัดสุพรรณบุรี.
P. 207
164
สาราสารกถา
ิ
ี
บ้าน ๓-๔ ปี ไม่มีใครดูแล ลูกหลานก็ท้งไป ประเภทน้ต้องดู ม ี
ั
ั
ี
ปรากฏในหนังสือพิมพ์ คนบ้านน้นบ้านน้ ถ้าจะเลวจะช่วอย่างไร
เอาตัวไม่รอดลูกหลานท้งไป มีอะไรไปหยิบย่นให้ อย่าให้เขาอยู่อย่าง
ื
ิ
อดอยาก หรือบอกพวกกัน บอกชาวบ้านท่ฐานะดีช่วยสงเคราะห์
ี
่
้
ั
ั
้
ื
้
ั
์
ิ
ี
่
ถาไมงนแลวอบอายขายหนา ไปลงหนงสอพมพ ไปออกทว ถามวา
้
ี
ตรงน้นมีวัดไหม? และพระในวัดน้นอดอยากหรือเปล่า? ไม่ได้
ั
ั
้
�
อดอยากเหลือกินเหลือใช้ ทาไมไม่มีนาใจสงเคราะห์สาธารณชน
�
ทอดอยากบาง อย่างนอยๆ งานท่เปนหลักซ่งองคกรของเรากาหนด
ี
็
้
ึ
์
่
ี
�
้
�
ึ
ข้นมา และยังมีนอกจากน้นอีกเยอะ ถ้าเราคิดทาแล้วงานทาไม่หมด
ั
�
�
ี
หรอก ไม่มีใครท่จะทางานได้เสร็จ แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมา-
�
ี
สัมพุทธเจ้า พระองค์ทาเสร็จแต่งานส่วนตัว งานท่จะสงเคราะห์
�
�
โลก ทาเสร็จเม่อไรเล่า ทาได้ ๔๕ ปีแล้วก็ปรินิพพาน ก็ต้องมา
ื
สืบสานกันต่ออีก แล้วเราไปคิดว่าไม่มีงานทา หากไม่เรียกว่าเลว
�
จะเรียกว่าอะไร? อันนี้เป็นมิจฉาทิฏฐิแล้ว
ื
ั
ี
ี
เท่าท่ผมว่ามาน้ก็เป็นข้อความท่วๆ ไป เพ่อให้ข้อคิดปลุก
สานึกให้พวกเราๆ ว่าเราในฐานะท่เป็นครูบาอาจารย์ และต่อๆ ไป
�
ี
จะปกครองวัดวาอาราม อย่าคิดว่าไม่มีอะไรทา ขอให้คิดว่าวันน ้ ี
�
ื
�
เราได้บกพร่องในเร่องอะไรบ้าง เพราะมันต้องทาทุกวัน งาน
ปกครอง ต้องทาทุกวัน งานศึกษางานเผยแผ่-งานสาธารณูปการ
�
�
ต้องทาทุกวัน งานสงเคราะห์ งานสาธารณสงเคราะห์ ต้องทาทุกวัน
�
ี
ทุกลมหายใจ น่ก็ฝากให้เอาไปคิด ก็คิดว่าข้อคิดอะไรต่างๆ มากมาย

