Page 420 - สาราสารกถา พระธรรมพุทธิมงคล เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จังหวัดสุพรรณบุรี.
P. 420
377
พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘)
�
ึ
กินข้าวกันแล้ว โยมแม่ก็พูดข้นด้วยภาษาพ่อขุนรามคาแหงว่า
ั
“กูจะเอามึงไปบวชเณร” เท่าน้นแหละ ไม่มีใครพูดอะไร ที่สุด
ก็เดินตามโยมกลับบ้านเตรียมตัวไปบวชเณร
ปีนั้น มีคนท่าไชยบวชพระไปเป็นเจ้าอาวาสอยู่วัดเขาพระ
อ�าเภออู่ทอง มีคนท่าไชยบวชไปอยู่ด้วยหลายรูป ในจ�านวนนั้น
ึ
ื
ี
�
มีรูปหน่งช่อพระสาเภา เป็นญาติกัน มาเย่ยมบ้านก่อนเข้าพรรษา
โยมแม่จึงนาตัวไปฝากให้ท่านพาไปบวชเณร สมัยน้นไม่มีรถ
�
ั
ั
ึ
ิ
้
ึ
โดยสาร จงเดนตามท่านไปวนนันเลย ถงวัดเขาพระตอนเย็น
ึ
�
ท่านก็จัดการปลงผมให้ รุ่งข้นก่อนทาบุญเข้าพรรษา ๑ วัน
ท่านก็พาไปบวชเป็นเณรหางนาคที่วัดช่องลม (ท่าพระยาจักร)
�
ี
มีพระครูวินยานุโยค (หลวงพ่อบุญ) วัดยางย่แส เจ้าคณะอาเภอ
อู่ทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ โยมและญาติทบ้านท่าไชยไม่ได้ไป
ี
่
ร่วมด้วยเลย บวชแล้วก็ไปจาพรรษาอยู่วัดเขาพระ เรียนนักธรรม
�
้
ั
ี
ี
ึ
�
่
ชนตรี ถึงเดือนอ้ายแรม ๒ คา ก็ไปสอบท่วัดยางย่แส ซ่งเป็น
�
ึ
วัดเจ้าคณะอาเภอ สอบเสร็จแล้วก็กลับไปอยู่วัดท่าไชย ซ่งเป็น
วัดบ้านเกิด
ั
สมัยน้นประเพณีบวชพระ ต้องบวชอย่างน้อย ๑ พรรษา
็
ิ
็
ออกพรรษาได้กฐนแล้ว ถ้ายงไม่สก สอบนกธรรมเสรจกนยม
ั
ึ
ิ
ั
ี
ธุดงค์ไปไหว้พระทางภาคเหนือ มาจบลงท่พระพุทธบาท จังหวัด
สระบุรี หรือพระแท่นดงรัง จังหวัดกาญจนบุรี

