Page 27 - ชุดฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณกรรม ชุดที่ 2 เรื่องอุปมา
P. 27

แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
                                                                                                              2๔




               5.  “การเปรียบด้วยการกล่าวว่าสิ่งหนึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่ง เป็นการเปรียบเทียบที่ไม่กล่าวตรง ๆ  แต่ใช้การ
              กล่าว

              เป็นนัยให้เข้าใจเอง” คือโวหารภาพพจน์แบบใด

                      ก. สัทพจน  ์         ข. อธิพจน  ์          ค. บุคลาธิษฐาน       ง. อุปลักษณ์

              6. “การใช้ถ้อยคำที่มีความหมายตรงกันข้ามหรือขัดแย้งกันมากล่าวร่วมกันได้อย่างกลมกลืน” คือโวหาร

              ภาพพจน์แบบใด
                                ์
                      ก. ปรพากย            ข. สัญลักษณ์          ค. อุปมา             ง. นามนัย
              7. ข้อใดมีการใช้โวหารภาพพจน์แบบอุปมาอุปไมย

                      ก. เจ้าจะเอาป่าชัฏนี่หรือมาเป็นป่าช้า

                      ข. จะเอาพระบรรณศาลานี่หรือเป็นบริเวณพระเมรุทอง
                      ค. พระโสตฟังใหวาดแว่วว่าสำเนียงเสียงพระแก้วเจ้าบ่นอยู่งึม ๆ

                      ง. เมื่อสมเด็จพระมัทรีกำสรดแสนกัมปนาทเพยงพระสันดานจะขาดจะดับสูญ
                                                              ี
              8. ข้อใดมีการใช้โวหารภาพพจน์แบบอติพจน       ์

                      ก. พระกายนางให้เสียวสั่นหวั่นไหวไปทั้งองค์ ดุจชายธงอันต้องกำลังลมอยลิ่ว ๆ
                                                                                       ู่
                      ข. นางจึ่งเซซังเข้าไปสู่พระอาศรมบังคมบาทพระภัสดา ประหนึ่งว่าชีวาจะวางวายทำลายล่วง

                      ค. ถ้าพี่มิได้ให้ด้วยเสื่อมใสศรัทธาแท้แล้ว ที่ไหนเลยแผ่นดินดานจะกัมปนาทหวาดหวั่นไหวจลาจล

                      ง. ปานประหนึ่งว่าพุ่มฉัตรทองอันต้องสายอัสนีฟาดขาดระเนนเอนแล้วก็ล้มลงตรงหน้าพระที่นั่งเจ้า
              9. ข้อใดไม่มีการใช้โวหารภาพพจน    ์

                      ก. อุปมาเหมือนคนไข้หนักแล้วมิหนำยังแพทย์เอายาพิษมาวางซ้ำให้เวทนา

                      ข. รัศมีพระจันทร์ก็มัวหมองเหมือนหนึ่งจะเศร้าโศกแสนวิปโยคเมื่อยามปัจจุสมัย
                                                             ั
                      ค. สมเด็จอรไทเธอเที่ยวตะโกนกู่กู๋ก้อง พระพกตร์เธอฟูมฟองนองไปด้วยน้ำพระเนตรเธอโศกา
                                                 ี้
                                                                                                                 ั
                      ง. จึ่งตรัสว่าโอ้โอ๋เวลาปานฉะนเอ่ยมิดึกดื่น จวนจะสิ้นคืนค่อนรุ่งเสียแล้วกระไรไม่รู้เลย พระพายรำเพยพด
              มารี่เรื่อยอยู่เฉื่อยฉิว

              10. ข้อใดมีการใช้สัทพจน์โวหาร
                                                     ื้
                      ก. นางเสด็จจรลีไปหยุดยืนในภาคพนปริมณฑลใต้ต้นหว้า
                      ข. พระพายรำเพยพัดมารี่เรื่อยอยู่เฉื่อยฉิว อกแม่นี้ให้อ่อนหิวสุดล่ะห้อย

                                                             ั
                      ค. สมเด็จอรไทเธอเที่ยวตะโกนกู่กู๋ก้อง พระพกตร์เธอฟูมฟองนองไปด้วยน้ำพระเนตรเธอโศกา
                                                                         ่
                      ง. เจ้าเคยมาห้อยโหนโยนชิงช้าชวนกันแกว่งไกว แล้วเล่นไลปิดตาเร้นแทบหลังบริเวณพระอาวาส
   22   23   24   25   26   27   28   29