Page 44 - ประวัติศาสตร์การสงคราม บทที่ 6-9
P. 44
44
3. ใช้หลักการดำเนินกลยุทธ์และจู่โจม การใช้ชุดลาดตระเวนเสนทาง (ROAD RUNNER) ตฝาเข้า
้
ี
่
ไปถึงฐานปฏิบัติการของ ร.1 พัน.3 นั้น นับเป็นการดำเนินกลยุทธ์อย่างกล้าหาญ และจู่โจม ทำให้ข้าศึกรู้ตว
ั
ทันทีว่าไม่สามารถเอาชนะได้ และการดำเนินกลยุทธ์ด้วยการยิง ป. และ ฮ.ติดอาวุธอย่างมีการประสานกัน
ทำลายการรุกคืบหน้าของข้าศึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้ง สกัดกั้นการถอนตัวของข้าศึกอย่างได้ผล และ
การใช้เครื่องบินทิ้งพลุส่องสว่างทำให้ฝ่ายเราพลิกสถานการณ์เป็นฝ่ายได้เปรียบทันท ี
ึ
4. ใช้หลักการออมกำลัง ร.1 พัน.3 ได้อาศัยที่กำบังป้องกันการระดมยิงด้วยอาวุธต่าง ๆ ของข้าศกซึ่ง
้
้
จัดเตรียมไว้เป็นอย่างดี ทำให้ลดการสูญเสยไดมาก และฝ่ายเราไดอาวุธยิงสนับสนุนทุกอย่างอย่างแม่นยำและ
ี
ทันเวลาภายใต้การประสาน การใช้อาวุธอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการยิงสนับสนุนทางอากาศเป็น
เครื่องมือออมกำลังที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
ุ
ุ
5. ใช้หลักระวังป้องกัน ร.1 พัน.3 ได้เตรียมการระวังป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้พลสะดด
และทุ่นระเบิดแสวงเครื่องในการป้องกัน ทก.พันและที่ตั้ง ค.อย่างแน่นหนา เพื่อชดเชยความขาดแคลนลวด
หนามหีบเพลง การจัดกำลังซุ่มโจมตีนอกฐานการวางตำบลยิงป้องกันตนเองและการเฝ้าสังเกตสิ่งที่ผิดปกต ิ
ต่าง ๆ ที่อาจแปลเป็นสิ่งบอกเหตุได้ ทำให้สามารถรู้ตัวล่วงหน้า และเตรียมการป้องกันได้ทันเวลาและได้ผล
บทเรียนจากการรบ
1. การยิงสนับสนุนที่แม่นยำและทันเวลานับเป็นหัวใจที่สำคัญยิ่งในการปฏิบัติการรบ
2. ขณะการปฏิบัติ ซึ่งมีการใช้อากาศยาน และมีการยิงสนับสนุนของ ป. พร้อม ๆ กันนั้น การตกลง
ใจให้ป.ยิงสนับสนุนต่อไปหรือไม่ เป็นไปตามความต้องการของ ผบ.หน่วยกำลังรบ โดยผู้ที่ประสานการยิง
สนับสนุนจะเป็นผู้ให้คำแนะนำที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดผลดีที่สุดต่อการปฏิบัติของหน่วยกำลังรบได ้
3. ระบบการแจ้งเตือนที่มีประสิทธิภาพ เช่น พลุสะดุด ยามคอยเหตุ การสังเกตสิ่งผิดปกติต่าง ๆ
ย่อมจะทำให้รู้การเข้ามาของข้าศึกได้ก่อนข้าศึกเริ่มเข้าต ี
4. ขวัญและกำลังใจดี เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการรบ ซึ่งทุกหน่วยจะต้องบำรุง และรักษาให้มีสภาพด ี
ตลอดเวลา
5. การเตรียมสะสม สป.5 ไว้อย่างเพียงพอที่จะทำการรบได้อย่างต่อเนื่อง และเตรียมการส่งกำลงได ้
ั
อย่างทันเวลา ย่อมทำให้หน่วยมีศักยภาพพอที่จะเอาชนะการเข้าตีของข้าศึกได้
การยุติสงครามเวียดนาม
สงครามเวียดนามได้ดำเนินไปถึง 7 ปี แต่สถานการณ์ต่าง ๆ ยังไม่กระเตื้องขึ้นแม้แต่น้อย มีแต่การ
สูญเสียชีวิต ทรัพย์สิน และความอดอยากยากแค้นไปทั่ว การรบไม่มีผลแพ้ชนะกันโดยเด็ดขาด ฝ่ายเวียดนาม
เหนือ และ เวียดกงได้ดำเนินการรุกทางการเมือง ควบคู่ไปกับการทหาร ด้วยการลวงฝ่ายโลกเสรีว่าต้องการ
สันติภาพ และร้องขอให้มีการเจรจาสงบศึกขึ้นที่กรุงปารีส ได้มีการเจรจากัน 146 ครั้ง ตั้งแต่เดือนตุลาคม
ั
ี
2511 จนถึงเดือน มกราคม 2515 เริ่มตั้งแต่สมัยประธานาธิบด จอห์นสัน จนถึงสมัยประธานาธิบดี นิกสน
ของสหรัฐฯ แต่การเจรจาไม่มีผลคบหน้า ฝ่ายเวียดนามเหนือ และเวียดกง จะถือโอกาสให้ทประชมเจรจาเป็น
ื
ี่
ุ
สถานที่โฆษณาชวนเชื่อ และเป็นที่น่าสังเกตว่าเมื่อใดที่ฝ่ายเวียดนามเหนือ และเวียดกงเพลี้ยงพล้ำในด้าน
ี
การทหาร จะต้องเสนอขอเจรจาสันติภาพทันท เพื่อประวิงเวลาในการปรับกำลังทหาร เข้าโจมตีเวียดนามใต ้

