Page 21 - เปรียบเทียบประสิทธิภาพของน้ำมันหอมระเหยการสกัดน้ำมันหอมระเหยของใบเตยจากการสกัดด้วยการกลั่นด้วยน้ำร้อน และ สกัดด้วยตัวทำละลายเอทานอล
P. 21
15
บทที่ 5
สรุป อภิปรำยผล และข้อเสนอแนะ
สรุปผลกำรทดลอง
จากการเปรียบเทียบประสิทธิภาพของน ้ามันหอมระเหยด้วยการสกัดน ้ามันหอมระเหยของใบเตยจาก
การกลั่นด้วยน ้าร้อน และจากการสกัดด้วยตัวท้าละลายเอทานอล ปรากฎว่าการกลั่นด้วยน ้าร้อนจากการต้ม
และการสกัดด้วยตัวท้าละลายเอทานอลสามารถท้าน ้ามันหอมระเหยออกมาได้จริงและสามารถน้าไปใช้งานได้
จริงในชีวิตประจ้าวัน
อภิปรำยผลกำรทดลอง
จากผลการทดลองที่คณะผู้จัดท้าได้บันทึกผลจากกลุ่มตัวอย่างนักเรียนชั นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 จ้านวน
10 คน ผลการทดลองไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ เนื่องจากพบว่าการสกัดน ้ามันหอมระเหยของใบเตยจากการกลั่น
ด้วยน ้าร้อน หากผ่านไป 1 วัน กลิ่นที่ได้จะหอมกว่าน ้ามันหอมระเหยที่สกัดจากตัวท้าละลายเอทานอล และ
เมื่อผ่านไป 7 วัน กลิ่นที่ได้จากการสกัดด้วยตัวท้าละลายเอทานอล จะมีกลิ่นที่หอมมากกว่าน ้ามันหอมระเหยที่
สกัดด้วยการกลั่นด้วยน ้าร้อน เนื่องจากในใบเตย 3-methyl-2(5H)-furanone ซึ่งพบเป็นร้อยละ 73 เป็นสาร
ที่ท้าให้เกิดกลิ่นฉุน หรือกลิ่นคล้ายยา เนื่องจากในใบเตยมีสารเหล่านี ในปริมาณที่มาก จึงท้าให้ในการต้มไม่ได้
ก้าจัดสารนี ออกไปได้ทั งหมด เมื่อมีการทิ งน ้ามันหอมระเหยไว้หลายวัน สารตัวนี จะเกิดการรวมตัวกันภายใน
ภาชนะจัดเก็บ จึงท้าให้มีกลิ่นที่ฉุนและไม่หอมเท่าเมื่อท้าการทดลอง และการสกัดด้วยตัวท้าละลายเอทานอล
วิธีนี จะได้น ้ามันหอมระเหยที่มีกลิ่นคงเดิม เนืองจากสารละลายเอทานอลที่ใส่ลงไปมีความคงที่ ดังนั นเมื่อเวลา
ผ่านไป 7 วันน ้ามันหอมระเหยยังมีกลิ่นหอมคงเดิม จึงสรุปได้ว่าวิธีการสกัดและระยะเวลาในการจัดเก็บน ้ามัน
หอมระเหย มีผลกับกลิ่นที่ได้จากตัวน ้ามันหอมระเหย

