Page 300 - 1.64
P. 300
16. ขอ้ ใดกล่าวไม่ถกู ต้องเกย่ี วกบั วฒั นธรรม
ก. วฒั นธรรมเกดิ จากการเรยี นรู้ ข. วฒั นธรรมเป็นมรดกทางสงั คม
ค. วฒั นธรรมเกดิ ขน้ึ เองตามธรรมชาตไิ ด้ ง. วฒั นธรรมเป็นสงิ่ ทเ่ี ปลย่ี นแปลงได้
17. สภุ าษติ “ความพยายามอย่ทู ไ่ี หน ความสาเรจ็ อยทู่ น่ี นั่ ” จดั เป็นวฒั นธรรมแบบใด
ก. คตธิ รรม ข. เนตธิ รรม
ค. วตั ถธุ รรม ง. สหธรรม
18. วฒั นธรรมขอ้ ใดทม่ี อี ทิ ธพิ ลจากศาสนามาเกย่ี วขอ้ ง
ก. การแกะสลกั ผลไม้ ข. การรดน้าสงั ขใ์ นงานแต่งงาน
ค. หนงั ตะลุง ง. การปรุงอาหารรสชาตทิ ห่ี ลากหลาย
19. การทาขวญั ขา้ ว เพอ่ื แสดงความเคารพต่อแมโ่ พสพ จดั เป็นเร่อื งของภูมปิ ัญญาทอ้ งถนิ่ ในดา้ นใด
ก. เป็นเร่อื งเกย่ี วกบั ความเช่อื และหลกั การพน้ื ฐาน
ข. เป็นเร่อื งราวแนวการปฏบิ ตั แิ ละเทคโนโลยี
ค. เป็นเรอ่ื งของศลิ ปวฒั นธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณี
ง. เป็นเรอ่ื งการประกอบอาชพี ในแต่ละทอ้ งถน่ิ
20. ขอ้ ใดเป็นวธิ กี ารอนุรกั ษ์ภูมปิ ัญญาไทยทด่ี ที ส่ี ดุ
ก. ปลูกฝังใหค้ นในสงั คมเกดิ ความรกั และหวงแหน
ข. มอบรางวลั แกผ่ อู้ นุรกั ษภ์ ูมปิ ัญญาดเี ดน่
ค. บรรจุในหลกั สตู รภาคบงั คบั
ง. ตงั้ ศนู ยก์ ลางการเรยี นรชู้ มุ ชน
21. ขอ้ ใดไม่ใช่ความสาคญั ของภูมปิ ัญญาไทย
ก. ช่วยชาตใิ หม้ นั่ คง
ข. สรา้ งความภาคภูมใิ จใหค้ นในชาติ
ค. สรา้ งความสมดุลระหวา่ งคนกบั ธรรมชาติ
ง. สรา้ งความเป็นใหญเ่ หนือชาตอิ ่นื ๆ
22. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะของภูมปิ ัญญาทต่ี า่ งจากขอ้ อน่ื
ก. เคลด็ ลาง
ข. เคร่อื งดนตรี
ค. อาหาร
ง. เคร่อื งนุ่งหม่
23. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะภูมปิ ัญญาไทยทแ่ี สดงความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งคนกบั ความเช่อื
ก. การจดั งานไหวค้ รเู พอ่ื ระลกึ ถงึ พระคุณครบู าอาจารย์
ข. การรบั ประทานยาสมุนไพรเพราะไดร้ บั การยนื ยนั แลว้ วา่ ไดผ้ ลดี
ค. การทาฝายกนั้ น้าเพอ่ื ชะลอการไหลของน้า
ง. การสารวมกริ ยิ าในบา้ นเพราะเกรงกลวั ศาลพระภมู ิ

