Page 210 - Proceeding_รวมปก_Neat
P. 210
196
5.4 ผลลัพธ์ (Outcome)
เมื่อพิจำรณำโดยใช้ทฤษฎีกำรเปลี่ยนแปลง (Theory of change) และผลผลิตขั้นสุดท้ำยที่ได้จำก
แผนงำนวิจัย ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น คือ กำรเปลี่ยนแปลงของวิสำหกิจจำกแบบดั้งเดิมมำสู่วิสำหกิจที่ใช้นวัตกรรม
กล่ำวคือ ผู้ประกอบกำรที่มีศักยภำพและนวัตกรรมต่ำง ๆ ที่ถูกใช้ในวิสำหกิจโดยเฉพำะอย่ำงยิ่งนวัตกรรม
ด้ำนปัญญำประดิษฐ์ วิทยำกำรหุ่นยนต์หรือเครือข่ำยข้อมูลดิจิทัล จะเป็นตัวช่วยท ำให้วิสำหกิจสำมำรถสร้ำง
มูลค่ำเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ ลดต้นทุนในกระบวนกำรผลิตรวมทั้งกำรบริหำรจัดกำร ก่อให้เกิดกำรกำรจ้ำงงำน
ที่เพิ่มขึ้นเพื่อขยำยฐำนกำรผลิต กำรลงทุนเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดกำรน ำนวัตกรรมไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์
สูงสุดและเกิดกำรส่งออกสิ้นค้ำสู่ภำยนอกที่มำกขึ้นและเมื่อพิจำรณำถึงระบบนิเวศนวัตกรรมในระดับภูมิภำค
ที่แผนงำนต้องกำรสร้ำงแล้ว จะท ำให้วิสำหกิจสำมำรถเข้ำถึงแหล่งเงินทุนสนับสนุนนวัตกรรมได้อย่ำงสะดวก
และรวดเร็ว ลดควำมเหลื่อมล ้ำในกำรเข้ำถึงควำมช่วยเหลือและบริกำรต่ำง ๆ ของรัฐ นอกจำกนี้ยังสำมำรถ
ยกระดับศักยภำพและเพิ่มขีดควำมสำมำรถในกำรแข่งขันของวิสำหกิจจำกกำรพัฒนำนวัตกรรมร่วมกันระหว่ำง
ประเทศ อีกทั้งยังเป็นกำรขยำยตลำดสินค้ำไทยในต่ำงประเทศไปพร้อมกัน ฉะนั้นในกำรศึกษำนี้
กำรประเมินผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจำกแผนงำนวิจัย “กำรพัฒนำส่งเสริมและสนับสนุนวิสำหกิจฐำนนวัตกรรม
(Startup และ SMEs)” จึงเป็นกำรประเมินมูลค่ำผลลัพธ์ของกำรเปลี่ยนแปลงจำกวิสำหกิจแบบดั้งเดิมไปสู่
วิสำหกิจฐำนนวัตกรรม โดยตัวชี้วัด (Indicator) ที่ผู้ประเมินเลือกใช้ส ำหรับกำรประเมินในครั้งนี้ คือ ก ำไร
ที่เพิ่มขึ้นของวิสำหกิจจำกกำรน ำนวัตกรรมมำประยุกต์ใช้
สมมติฐานในการประเมิน
ด้วยข้อจ ำกัดด้ำนข้อมูลเกี่ยวกับรำยละเอียดกำรใช้นวัตกรรมของวิสำหกิจไทย ท ำให้ผู้ประเมิน
จ ำเป็นต้องประเมินมูลค่ำของผลลัพธ์ภำยใต้สมมติฐำนในกำรประเมิน ดังนี้
(1) ผลลัพธ์ทั้งหมดจำกแผนงำนวิจัยประเมินจำกกำรเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ในแผนงำนวิจัย คือ วิสำหกิจเริ่มต้นและวิสำหกิจขนำดกลำงและขนำดย่อม ผลลัพธ์ดังที่ได้กล่ำวมำข้ำงต้น
ล้วนสำมำรถสะท้อนออกมำอยู่ในรูปแบบของก ำไรที่วิสำหกิจได้รับเพิ่มขึ้นจำกกำรเปลี่ยนแปลงสู่วิสำหกิจ
ฐำนนวัตกรรม ฉะนั้นในกำรศึกษำนี้จึงใช้ก ำไรที่เพิ่มขึ้นของวิสำหกิจเป็นตัวชี้วัดผลลัพธ์และผลกระทบจำก
แผนงำนวิจัย
(2) เนื่องจำกยังไม่เคยมีผลกำรศึกษำด้ำนก ำไรที่เพิ่มขึ้นของวิสำหกิจที่ใช้นวัตกรรมในประเทศไทย
กำรศึกษำในครั้งนี้จึงจ ำเป็นต้องท ำกำรอ้ำงอิงผลก ำไรที่เพิ่มขึ้นของวิสำหกิจฐำนนวัตกรรมจำกต่ำงประเทศ
โดยสำมำรถจ ำแนกระดับของผลกระทบออกได้เป็น 3 ระดับ ได้แก่ 1. กลุ่มที่มีผลกระทบต ่ำ โดยมีผลก ำไร
เพิ่มขึ้นระหว่ำง 12.00% - 19.60% เมื่อเปรียบเทียบกับธุรกิจประเภทเดียวกันที่ไม่มีกำรประยุกต์ใช้นวัตกรรม
2. กลุ่มที่มีผกระทบปำนกลำง โดยมีผลก ำไรเพิ่มขึ้นระหว่ำง 33.00% - 38.25% และ 3. กลุ่มที่มีผลกระทบสูง
โดยมีผลก ำไรเพิ่มขึ้นระหว่ำง 54.00% - 58.90% (แสดงดังตำรำงที่ 3)

