Page 6 - ชุดกิจกรรมการวิจัยในชั้นเรียน เล่มที่ 2 การสร้างและพัฒนานวัตกรรมทางการศึกษา
P. 6
2
่
ุ
ุ
้
ึ
1.2 ศกษาจดเดน และจดดอยของเนื้อหาวิชา เพื่อให้ทราบสภาพพื้นฐานเบื้องตน
้
ด้านโครงสร้างสาระส าคัญ และรายละเอียดที่ต้องด าเนินการปรับปรุงหรือพัฒนาการเรียนรู้แก่ผู้เรียน
้
1.3 ศึกษาสภาพปัญหาการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และระดับความตองการใน
่
ี่
้
ขณะนั้นเพื่อน ามาเป็นแนวทางการพัฒนา และชวยให้นวัตกรรมทพัฒนาขึ้นมีความสอดคลองและ
เหมาะสมกับปัญหาหรือความต้องการที่เกิดขึ้น
ุ
1.4 ก าหนดแนวทางการพัฒนา และการประเมินคณภาพนวัตกรรมการเรียนรู้ท ี่
ู้
ี่
พัฒนาขึ้นว่าต้องการน าไปให้ผสอน หรือผเรียนใช และหลงจากใช นวัตกรรมการเรียนรู้ทพัฒนาขึ้น
ู้
ั
้
้
้
ี่
้
ุ
ตามกระบวนการทก าหนดไว้ แลวผเรียนจะบรรลเปูาหมายไดอย่างไร และจะทราบไดอย่างไรว่า
ู้
้
นวัตกรรมนั้นประสบความส าเร็จในการน าไปใช้งาน
2. วิเคราะห์หลักสูตร เมื่อได้กรอบแนวคิดในการพัฒนานวัตกรรมแลว ตองน าหลกสตรมา
ั
้
้
ู
วิเคราะห์หาองค์ประกอบ ดังนี้
์
ึ
2.1 วิเคราะห์โครงสร้างของเนื้อหา เพื่อศกษาถึงองคประกอบของเนื้อหา ว่าลกษณะ
ั
โครงสร้างตามหลักสูตรก าหนดไว้ ควรประกอบไปด้วยสาระที่เปนแกนหลกรายละเอียดใดบ้างททาให้
ั
ี่
็
้
์
ั
เนื้อหาสาระทก าหนดขึ้นสามารถน าไปพัฒนานวัตกรรมไดอย่างเหมาะสม มีความสมบูรณทนสมัย
ี่
และตรงตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตร
ั
2.2 วิเคราะห์ความยาวนานของเวลาทใช เพื่อแบ่งเนื้อหาสาระและจดลาดบ
ั
ี่
้
การน าเสนอนวัตกรรมให้เหมาะสมกับความคงทน ในการเรียนรู้ของผู้เรียนแต่ละกลุ่มแต่ละวัย
ุ
ั
่
้
ู้
่
ู้
2.3 วิเคราะห์ผเรียน เพื่อพิจารณาคณลกษณะผเรียนในดานตางๆ เชน วัฒนธรรม
์
ิ
ิ
ั
์
ิ
สิ่งแวดล้อม ประสบการณเดม ลกษณะทางกายภาพ สตปัญญา อารมณ ความตองการ เจตคต ฯลฯ
้
ู้
ั
ซึ่งทงหมดนี้เป็นสวนหนึ่งของพัฒนาการดานร่างกาย สตปัญญา สงคม และอารมณ ของผเรียน
ั้
์
ิ
้
่
เนื่องจากคุณลักษณะของผู้เรียนจะมีผลโดยตรงต่อการพิจารณาเลือกพัฒนานวัตกรรมตลอดจนวิธีการ
น าเสนอให้สอดคล้องและเหมาะสมกับการเรียนรู้
ู้
ิ
3. ก าหนดวัตถุประสงคการเรียนรู้ โดยพิจารณาก าหนดวิธีการให้ผเรียนเกิดพฤตกรรมท ี่
์
แสดงถึงการเรียนรู้และระดับของพฤติกรรมท่ต้องการ ด้วยการจัดลาดับเนื้อหาก าหนดเวลา
ี
ุ
การน าเสนอและกิจกรรม เพื่อให้นวัตกรรมสามารถถ่ายทอดพฤตกรรมและคณลกษณะทตองการ
ั
้
ี่
ิ
ให้แก่ผู้เรียนได้ดียิ่งขึ้น สามารถแบ่งประเภทการเรียนรู้และระดับการเกิดพฤติกรรมการเรียนรู้ได้ ดังนี้
3.1 พุทธพิสย (Cognitive Domain) เป็นการรับรู้ข้อมูลและเนื้อหาความรู้จากสง
ิ่
ั
ง่ายไปสู่สิ่งยากอันเป็นการพัฒนาด้านสติปัญญาของมนุษย์มี 6 ระดับ ได้แก่ รู้และจาไดเข้าใจเรื่องราว
้
น าไปใช้ได้ วิเคราะห์ได้ สังเคราะห์ได้ และประเมินคุณค่าได ้
้
ั
ี่
3.2 ทักษะพิสัย (Psycho-motor Domain) เป็นการเรียนรู้ทแสดงออกในดานทกษะ
่
และความสามารถทางด้านบังคับกลไกของร่างกายในการปฏิบัติงานตาง ๆ มี 7 ระดบ ไดแก่ รับรู้การ
้
ั
ั
กระทา เตรียมความพร้อม ตอบสนองตามสภาพ ปรับกลไกในการตอบสนองโดยอัตโนมัต ดดแปลง
ิ
กระบวนการตอบสนอง และปรับประยุกต์ใช้ในสถานการณ์อื่น ๆ
ิ
ั
3.3 จตพิสย (Affective Domain) เป็นการเรียนรู้ด้านทัศนคติ ความรู้สึก อารมณ ์
่
ั้
้
ั
ั
ิ
เพื่อพัฒนาพฤตกรรมหรือบุคลกลกษณะของแตละบุคคล มี 5 ระดบ ไดแก่ ตงใจรับรู้ยอมรับและ
ิ
เชื่อถือ เห็นคุณค่า จัดระบบคุณค่าได้ และสร้างลักษณะนิสัย

