Page 75 - นาวิกศาสตร์ เดือน กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
P. 75

็
                                                                                    ึ
                                                                             
                                                                                           ี้
                                                                                             
                                                             เมื่อทานผูอานไดอานมาถงตอนนแลว กคงจะ
                                                                                                ี่
                                                                                             ็
                                                           ทราบแลววา  “เพลงหะเบสสมอ”  ที่เสดจเตยทรง
                                                                  
                                                                   
                                                           พระนิพนธไววา “ลัดไปเกาะสีชัง จนกระทั่งกระโจมไฟ”

                                                           กคอ  “ประภาคารอัษฎางค  หรอ  ประภาคารหิน
                                                                                      ื
                                                             ื
                                                            ็
                                                           สัมปะยื้อ”  นั่นเอง
                                                             กอนจะจบผูเขียนอยากฝากไววา กระโจมไฟ
                                                                
                                                                                                ิ
                                                                                ิ่
                                                                                                    ื
                                                             ื
                                                           หรอประภาคาร  เปนสงจำเปนตอการเดนเรอ
                                                                                         
                                                           สำหรบนกเดนเรอ เพื่อเปนดวงประทีปนำทางใหเรอ
                                                                     ิ
                                                                        ื
                                                                  ั
                                                                                                    ื
                                                               ั
                                                           ปลอดภัย เชนเดียวกัน ความดี ความซื่อสัตย สุจริต
                              กระโจมไฟเฉลิมพระเกียรติ บ้านแหลม  และการมีจรยธรรมกยอมเปนสงที่จำเปนของบุคคล
                                                                            ็
                                                                     ิ
                                                                                     ิ่
            เปนไฟเสี้ยว ๒ สี คือ สีแดง และสีขาว โดยวางให   ที่จะนำไปสูความเจริญรุงเรืองของชีวิต  เปนดวง
                                                                                                    ื
            สีแดงอยูในมุม ๑๒๓ องศา ถึง ๓๒๙ องศา ซึ่งจะ    ประทีปของชีวิต  ซึ่งบุคคลทั้งหลายควรที่จะถอ
                                                                              ิ
                                                                                     ื
                                                              ิ
                                                                                 ุ
               ุ
                                             ึ
            คลมพื้นที่จากตำบลอาวบานแหลม ถงตำบลบาน       ปฏบัติ  เพื่อความเจรญรงเรองของตนเองและ
            บางแกว ไฟสขาวอยูดานนอก ในมุม ๓๒๙ องศา  ครอบครัว ตลอดจนประเทศชาติใหสมกับที่เปนคน
                  
                        ี
                               
            ถง ๑๒๓ องศา ซึ่งเปนไฟที่ใชชวยในการเดนเรอ  ไทยที่เกิดมาภายใตพระบรมโพธิสมภารอยางมีความ
                                                      ื
              ึ
                                                  ิ
            ลักษณะไฟเปนไฟวับ สีขาว และแดง ทุก ๆ ๙ วินาที  สุขตลอดไป
            ไดเปดกระโจมไฟเฉลมพระเกยรตบานแหลม
                                         ี
                                             ิ
               
                                 ิ
            เมื่อวันที่ ๒๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๐                      นักเดินเรือยึดประภาคารส่องสว่าง
              จะเห็นไดวา  เครองหมายชวยในการเดนเรอ          เป็นประทีปนำทางทุกแห่งหน
                                                      ื
                               ื่
                        
                                                  ิ
            โดยเฉพาะอยางยิ่งประภาคารและกระโจมไฟ เปนสิ่ง       ขาดประทีปนำไปให้ได้ยล
            ที่สำคัญอยางยิ่ง สำหรับนักเดินเรือ แมวาเทคโนโลยี          เรือก็ชนหินโสโครกอับปางไป
                                                   ั
                                        
            ในปจจบันจะคงอยู เชน มีเรดารในการตรวจจบหา         เฉกเช่นกับชีวิตของคนเรา
                  ุ
            ตำบลที่  มีระบบ GPS (Global Positioning          หากขลาดเขลาไร้คุณธรรมเอาแต่ได้
                        ื
            System)  หรอระบบหาที่เรอดาวเทียม  แตความ            ขาดจรรยายุติธรรมประจำใจ
                                    ื
                                                  

                         ื่
                ั
                                             ื
                                          ิ
            สำคญของเครองหมายชวยการเดนเรอยังมีความ                 สิ่งที่ได้ชีพอับปางเหมือนอย่างเรือ
            สำคัญอยู หากระบบอิเล็กทรอนิกสเสียหาย ก็จำเปน                       พลเรือเอก ทวีวุฒิ  พงศ์พิพัฒน์
            ตองใชระบบเครองหมายชวยในการเดนเรอ  เชน                                                       ผู้ประพันธ์
              
                                                 ื
                                             ิ
                          ื่
            ประภาคารและกระโจมไฟดวย
                          ั้
              นอกจากนน  ประภาคารและกระโจมไฟที่             อางอิง
            กองทัพเรอดแลรกษาอยูกจะเปนสถานที่ทองเที่ยว   ๑.หนังสือที่ระลึกวันคล้ายสถาปนากรมอุทกศาสตร์ ครบรอบ ๘๔ ปี
                                  ็
                       ู
                           ั
                     ื
                         ิ
                                    
            สถานที่ประวัตศาสตร อันนาหวงแหน โดยเฉพาะ         เครื่องหมายช่วยการเดินเรือ; ๑๖ มกราคม ๒๕๔๘
                                            
            อยางยิ่ง  ประภาคารเกาะตะเภานอย  ซึ่งเปน      ๒. www.navy.mi.th/navalmuseum/./his_b21_prapakarn_thai. htm;
                                                              ๑๔ สิงหาคม ๒๕๔๘
            ประภาคารที่มีความสวยงาม มีทัศนยภาพงดงาม        ๓. สกุลบุนนาค ,ชมรมสายสกุลบุนนาค ; พฤศจิกายน ๒๕๔๒
                                            ี
                                        ื
            มีสตวสงวนหายาก  เชน  นกเงอกอยูถง  ๗๐  คู     ๔. สัมภาษณ์ พลเรือเอก สุวัชชัย  เกษมศุข อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ
               ั
                                               ึ
             ึ
                                             ั
                                           ุ
                           
            จงเปนสถานที่นาสนใจและควรอนรกษไว  โดย           ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๕
                                                           ๕. สัมภาษณ์ พลเรือเอก อุฬาร  มงคลนาวิน อดีตรองผู้บัญชาการ
                         ็
            กองทัพเรอกไดดแลสมบัตของชาตเหลานี้                 ทหารสูงสุด และผู้บัญชาการ กองเรือยุทธการ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๕
                      ื
                            
                                                ิ
                                                    
                              ู
                                       ิ
            เพื่อประชาชนและแผนดินอยางสุดความสามารถ       ๖. http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=navigator45&group=
                                                              2&month=03-2011&date=19 ; ๑๖ มกราคม ๒๕๔๘
                                                             นาวิกศาสตร  ปีที่ ๙๖  เล่มที่  ๒  กุมภาพันธ์  ๒๕๕๖ 53
   70   71   72   73   74   75   76   77   78   79   80