Page 71 - นาวิกศาสตร์ เดือน กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
P. 71

ุ
                       
                                                    ิ
            “วชิรรงโรจน” อันเนองมาจากพระบรมนามาภไธย  เชษฐาธิราช พระมงกุฎเกลาเจาอยูหัว เนื่องจากทรง
                              ื่
                                                                                  ี้
                                                                         ิ
                                                               ิ
                                                                              
                                                                                        ิ
            “วชิราวุธ” นั่นเอง                             มีวินจฉัยวา  เงนที่ไดมานเปนเงนของราชนาวี
                                                     
                                        กระโจมไฟนสราง      สมาคม อันอยูในพระบรมราชูปถมภแหงพระบาท
                                                   ี้
                                                                                       ั
                                                                                          
                                                               ็
                                        ดวยเฟอโรคอนกรีต   สมเดจพระมงกฎเกลา ฯ ซึ่งเปนผูกอกำเนดใหเกด
                                                                            
                                                                                               ิ
                                                                                                    ิ
                                                                                         
                                                                        ุ
                                        เปนไฟสขาว  มี     สมาคมและเงนรายนขึ้น จงไดพระราชทานนามอัน
                                                ี
                                                                                    
                                                                      ิ
                                                                            ี้
                                                                                 ึ
                                                                  
                                        ลักษณะเปนไฟวับ    สอดคลองมาจากกระโจมไฟวชิรรงโรจน  และ
                                                                                          ุ
                                        ๑ ครง ในทุก ๆ      กระโจมไฟทุก  ๆ  แหงจะมีพระบรมนามาภไธย
                                                                                                  ิ
                                             ั้
                                        ๓  วินาที  สูงจาก  “วชิราวุธ” อยูดวย คือ
                                                ้
                                            ั
                                        ระดบนำทะเล                       “วชิรรุ่งโรจน์”
                                        ปานกลาง  ๑๓๔          ปัชโชติวชิราภา         นิสาวชิรกาส
                                                   
                                        เมตร เห็นไดไกล        ประภาสวชิรกานต์        ชัชวาลวชิรโอฆ
                                        ๙ ไมล สรางเมื่อ      อาโลฏวชิรยุตต์        สมุทรวชิรนัย
                                        ปพ.ศ.๒๔๖๘
                                        เนองจากทรง         กระโจมไฟปัชโชติวชิราภา  (กระโจมไฟ
                                           ื่
                          กระโจมไฟวชิรรุ่งโรจน ์  ตระหนกแนชัด     เกาะลันตา)
                                                    
                                               ั
                                                                                         ื
            ในพระราชหฤทัยวา กระโจมไฟเปนคณประโยชนไม        จากปากนำตรงขึ้นไปทางเหนอเขาไปในเขต
                                           ุ
                                                                        ้
                                                                           ั
                                                     
                     
                                                     
                                   ั
                                         ุ
                                                    
            เฉพาะแตชาวเรอ  ยอมนบเปนคณประโยชนตอ                                     ข อ ง จงหวัดกระบี่
                           ื
                                                                                          ั
                                    
                        ิ
                                                    
                                 ึ่
            ประเทศชาตอีกสวนหนงดวย  ในทองทะเลถามี                                    กระโจมไฟนตงอยูที่
                            
                                                                                               ี้
                                                                                                 ั้
            กระโจมไฟไวมากแหง ภยันตรายแหงชีวิตและทรัพย                            ปลายแหลมทิศใต   
            สมบัติก็ยอมนอยลง เหลานี้ก็นับวาเปนคุณประโยชน                       ของเกาะลันตาเปน
                                           ั
                                                  
                               
              
            ตอประเทศชาติ จงไดสละพระราชทรพยใหสรางขึ้น                               หอคอยทำจากเฟอโร
                           ึ
                               ั
                              
            โดยทรงเห็นประโยชนดงกลาวแลว กระโจมไฟดวงน    ี้                            คอนกรีต สรางเมื่อ
                                   
                                       
                                                                                                
                                           ื
            นำมาซึ่งความสะดวกใจใหกบชาวเรอทั้งหลายเปน                               พ.ศ.๒๔๗๐ ตอมา
                                    ั
                                                                                                  
                                                      ั
                          ั
                      
                   ั
            อเนกอนนตสมดงพระราชประสงคทุกประการอันนบ                                   ตวกระโจมไฟเกาได 
                                        
                                                                                                  
                                                                                      ั
            วาเปนพระมหากรุณาธิคุณลนเกลา ฯ เปนพระราชกุศล                         ชำรุดทรดโทรมมาก
                                                                                            ุ
            อันควรนิยมเปนเยี่ยงอยาง                                                ไมสามารถซอมแซม
              เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๐ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร                  กระโจมไฟปัชโชติวชิราภา  ได  ทางราชการ
                                                                                       

                                         
                                      
            มหาประชาธปก  พระปกเกลาเจาอยูหัวทรงพระ         จงไดสรางกระโจมไฟใหม  ในบรเวณใกลเคยงกน
                        ิ
                                                                                                    ั
                                                                                       ิ
                                                                                              
                                                               
                                                            ึ
                                                                                                ี
                                                                  
            กรณาโปรดเกลา ฯ พระราชทานเงนของราชนาวี          และเปดใชงาน เมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ.๒๕๑๔
                                           ิ
                         
               ุ
                                            
                                       
                                 ื
                                                      ึ่
                        ื
            สมาคมที่เหลอจากซื้อเรอพระรวงแลวจำนวนหนง  ใชตะเกียงกาซอเซทีลีน และไดเปลี่ยนเปนตะเกียง
                                            ิ
                ั
            ใหกบกรมอุทกศาสตร  โดยเงนจำนวนนี้   ระบบพลังงานแสงอาทิตย เมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคม
                                 
                             ั
                            
            กรมอุทกศาสตรไดจดสรางกระโจมไฟขึ้นในมณฑล         พ.ศ.๒๕๓๓ ลักษณะไฟคงเดิม เปนไฟสีขาว วับ ๓ ครั้ง
                          
                              ั
                                               ี่
              ู
            ภเกตอีก  ๖  แหง  กบซอมแซมและเปลยนแปลง        เปนหมู ทุก ๆ ๑๕ วินาที สูงจากระดับน้ำทะเลปาน
                ็
                                           ้
                                        ี
                        
            กระโจมไฟเกา  จากการใชตะเกยงนำมันกาดเปน       กลาง ๓๑ เมตร เห็นไดไกล ๑๐ ไมล
                                                 
                                                                              
                ี
                                            
            ตะเกยงใชกาซอเซทีลน กระโจมไฟที่สรางใหมเหลาน ี้  กระโจมไฟนิสาวชิรกาส (กระโจมไฟเกาะเละละ)
                              ี
                                                     
                      
                                   
                        ุ
               
            ไดทรงพระกรณาโปรดเกลา ฯ พระราชทานนาม     จากสตูล  ขึ้นไปทางเหนือถึงเกาะเละละ
                    ุ
                                       ิ
                             ิ
                                    ี
                         ี
            เพื่อเปอนสาวรยเฉลมพระเกยรตแดสมเดจพระบรม      บนยอดเกาะนเปนที่ตงกระโจมไฟนสาวชิรกาสเปน
                                              ็
                                          
                                                                             ั้
                                                                                        ิ
                                                                       ี้
                                                             นาวิกศาสตร  ปีที่ ๙๖  เล่มที่  ๒  กุมภาพันธ์  ๒๕๕๖ 49
   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76