Page 20 - สัปดาห์กีฬานาวี ประจำปี ๒๕๖๕

ึ
ู
ึ
๗. เมื่อกรรมการใหสญญาณ “ระวัง” ใหผแขงขันทั้ง ๒ ชุด ดงเชือกใหตงโดยให
ั
ี
สขาวกลางเชือกอยูตรงเสนกลางที่สนาม และคนขี่จะตองจับเชือก
นอกเครื่องหมายเขตแดนทั้ง ๒ ชุด หามมิใหทําหลุมที่พื้นสนามกอนตั้งตนดึง

ิ่
๘. เมื่อกรรมการใหสญญาณ “เรม” ใหทั้งสองฝายทําการดง หามมิใหผแขงขัน
ึ

ู
ั
ู
ื
ั

ผอนเชือกโนมตวไปขางหนา หรอกาวเทาไปขางหนาโดยเจตนาใหคตอสลม
ู
หรือเสียหลัก
๙. ขณะดึงกันอยู ตางชุดตางลมดวยกันทั้งค หากเครองหมายเขตแดนของฝายหนึ่ง


ื่
ู
่
ี


ไมล้ําเสนเขตแดน ใหถือวาไมมีการแขงขันในเทยวนัน แตถาเครื่องหมายเขตแดน
้
ของฝายหนึ่งล้ําเขาไปในเขตแดนของอีกฝายหนึ่งใหถือวาเปนผูแพในเที่ยวนั้น
มาโรมัน (ชาย)
ู
๑. กอนการแขงขันใหมีการจับสลากเพื่อเลือกล ผแขงขันจะตองวิ่งในลที่กําหนดให
ู
ู

ตลอดระยะทาง ใชผูแขงขันชุดละ ๖ คน ปฏิบัติดังนี้
ั
ิ่
๑.๑ ใหผูแขงขัน ๓ คน เขาแถวหนากระดานเรยงหนึ่งหลงเสนเรม ใชแขนกอด
ี
กันตามถนัด แลวเอาหวงผาแถบคลองรกแรขวาของคนรมขวาสะพายแลงขึ้นทางบาซาย และ


ิ
ั



เอาอีกหวงคลองรักแรซายของคนริมซายยสะพายแลงขึ้นทางบาขวา
๑.๒ ใหผแขงขันอีก ๒ คน เขายืนหลงผแขงขันแถวหนาตรงชองระหวางบุคคล
ู
ั
ู
แลวสอดศรษะเขาไปในชองนั้น แขนทั้งสองคนตองกอดเอวกัน คนที่อยูทางซายเอามือซาย
ี


กอดเอวคนริมซายแถวหนาและคนที่อยูทางขวาเอามือกอดเอวคนที่อยูริมขวาแถวหนา
ั
ู
๑.๓ ใหผูแขงขันที่เหลือซึ่งถือวาเปนผูขี่ขึ้นยืนบนหลงผแขงขันแถวสองตามถนัด
ู

หันหนาไปทางเสนชัย ใชมือหนึ่งถือผาแถบที่คลองผแขงขันแถวหนาไวตามถนัด

ตางสายบังเหียน อีกมือหนึ่งถือแสชูไวเหนือศีรษะตลอดเวลา และหามใชมือหนึ่งมือใดแตะตอง
ตัวผูแขงขันในชุดเดียวกัน

๒. เมื่อกรรมการใหสัญญาณ “ระวัง” ใหแตละชุดเตรียมพรอมที่จะออกวิ่ง

๓. เมื่อกรรมการใหสัญญาณ “เริ่ม” ใหแตละชุดเริ่มวิ่งเขาสูเสนชัย
กระเชียงบก (ชาย)
ู

ู
ู
๑. กอนการแขงขันใหมีการจับสลากเพื่อเลือกล ผแขงขันจะตองวิ่งในลที่กําหนดให
ตลอดระยะทาง ใชผูแขงขันชุดละ ๕ คน
๒. ใหทุกคนยืนครอมกระเชียง ๔ คน ยืนทางปลายกระเชียงหันหลงใหเสนเรม
ั
ิ่


ิ่
อีก ๑ คน เปนนายทายยืนทางดามกระเชียง หันหนาไปทางเสนเรม มือทั้งสอง

ของผูแขงขันจับกระเชียงไดตามถนัด เวนแตนายทายตองจับดามกระเชียง ๑ มือ



อีกมือหนึ่งใหจับที่ตัวกระเชียงดานหนา และตองจับในทานั้นอยูตลอดเวลา
- ๒๐ -