Page 33 - นาวิกศาสตร์ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓
P. 33
พระเจ้าอัลเบิร์ตที่ ๑ แห่งเบลเยียม
King Albert I
๙. การรบที่ อีแซร์ (Yser)
ื
ี
ี
กองทัพท่ ๑ ของเยอรมัน ยึดกรุงบรัสเซลส์ไว้ได้เม่อวันท่ ๒๐ สิงหาคม ค.ศ.๑๙๑๔ แล้วจึงบุกตะลุยไปทาง
ด้านชายทะเล ผ่านทุ่งฟลานเดอร์ส ทหารเยอรมันไหลบ่าเข้ายึดเมืองต่าง ๆ ได้ คือ เกนต์ (Ghent) (๑๑ ตุลาคม
ค.ศ. ๑๙๑๔) บรูก (Bruges) (๑๙ ตุลาคม ค.ศ. ๑๙๑๔) ออสเทนด์ (Ostend) (๑๕ ตุลาคม ค.ศ. ๑๙๑๔)
พระเจ้าอัลเบิร์ต (King Albert I ) กษัตริย์หนุ่มวัย ๓๙ พรรษา ของเบลเยียม ต้องหลบไปอยู่ท่เมืองนิวปอร์ต (Nieuport)
ี
ซ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ ชายทะเลด้านทะเลเหนือ ในตอนปลายเดือนตุลาคม สถานการณ์ของประเทศเบลเยียมก็อยู่ในฐานะ
ึ
ื
�
ี
ึ
้
ั
“จนมุม” เน่องจากมีผืนแผ่นดินฝั่งซ้ายของแม่นาอีแซร์ (Yser) เท่าน้น ท่ยังคงอยู่ในครอบครองของเบลเยียม ซ่งกองทัพ
�
อันเกรียงไกรของเยอรมันไม่สามารถจะเข้ายึดได้ เน่องจากทหารเบลเยียมได้กลายเป็นผู้รักษาประตูนาแห่งทุ่งฟลานเดอร์ส
้
ื
เปิดประตูน�้าปล่อยให้น�้าไหลท่วมผืนแผ่นดินเป็นบริเวณกว้างถึง ๒ ไมล์ จากเมืองดิซมุด (Dixmude) จนถึงชายทะเล
น�้าลึก ๓-๔ ฟุต ท�าให้ยับยั้งกองทัพเยอรมันไว้ได้ การต่อสู้ครั้งนั้นเต็มไปด้วยความขมขื่น กองทัพเบลเยียมต้องสูญเสีย
์
ั
้
กาลงไปแลวถง ๓๕% แตกองทพเบลเยยมพรอมดวยพระเจาอลเบรต และพระราชนเอลซาเบธ (Elizabeth) กยงคงยดมน
ิ
ึ
ั
ั
่
ี
ิ
็
ิ
้
ึ
ี
ั
่
�
ั
้
้
อยู่ที่นั่น ตลอดระยะเวลา ๔ ปี บนเนื้อที่เพียง ๒ - ๓ ตารางไมล์ที่อยู่ในดินแดนเบลเยียม
ั
แนวรบทางด้านตะวันตกก็ได้เกิดข้นแล้ว เป็นระยะทางยาวถึง ๔๖๖ ไมล์ ต้งแต่เมืองนิวปอร์ต (Nieuport)
ึ
ของเบลเยียม ชายฝั่งทะเลเหนือ ผ่านทุ่งฟลานเดอร์ส ลัดเล้ยวไปตามชายแดนเบลเยียม-ฝร่งเศส จนจรดชายแดน
ั
ี
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
การรบในแนวรบด้านตะวันตกเป็น “สงครามสนามเพลาะ” (Trench Warfare) คือ ขุดพ้นดินเป็นหลุมลึก
ื
ุ
ื
ขนาดคนยน โดยหัวไม่โผล่ให้ข้าศกยิงได้ ยาวเป็นคโดยตลอด เอาดนทขุดข้นมากองไว้ท่ปากหลม หรือใช้กระสอบ
ึ
ิ
ู
่
ี
ึ
ี
ื
ทรายวางปากหลุม เป็นเคร่องป้องกันอันตรายจากกระสุน หรือสะเก็ดระเบิด (Bunker) ทหารต้องต่อสู้อยู่ในสนาม
เพลาะทั้งวันทั้งคืน ใช้ชีวิต กิน อยู่ หลับนอน กับซากศพทหารที่ตาย ผจญกับตัวแมลงที่ดูดเลือด หนูตัวโต ๆ และโรค
“เท้าสนามเพลาะ” (Trenchfoot) ซึ่งน�าไปสู่โรคเท้าเน่าเปื่อย (gangrene)
นาวิกศาสตร์ 31
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓

