Page 58 - นาวิกศาสตร์ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓
P. 58
้
ื
ื
�
พิธีแช่ตัว และอาบนาตามคติความเช่อ เม่อประมาณ มองเห็นล�ำแสงสีทองทอดยำวจำกเขำแหลมปู่เจ้ำ
ั
�
ู
ั
ต้นปี พ.ศ.๒๕๖๐ โดยผ้บญชาการฐานทัพเรือสตหีบ ตกกระทบน้ำทะเลเป็นทำงยำวมำจรดหำดม้ำน้ำ
�
ขณะน้นเป็นผู้ถอดรหัสความศักด์สิทธ์ของจุดเสริมพลัง ได้อย่ำงน่ำอัศจรรย์ และ ณ จุดเสริมพลังชีวิตตำมธรรมชำต ิ
ั
ิ
ิ
ื
ี
ี
ี
ชีวิตแห่งน้ได้ว่า เขำแหลมปู่เจ้ำท่เช่อกันว่ำเป็นส่วน “หัวมังกร” แห่งน้ ในช่วงคืนเพ็ญท่ดวงจันทร์ก�ำลังลอยเด่น
ี
“หัวมังกร” น้น ถ้ำพิจำรณำภูมิลักษณะทำงธรรมชำต ิ โผล่พ้นยอดเขำทำงทิศตะวันออก ต�ำแหน่งท่กระท�ำพิธีจะอย ู่
ี
ั
ึ
จะเห็นถึงควำมอัศจรรย์หลำยอย่ำง อำทิ ในเวลำกลำงคืน ก่งกลำงระหว่ำงดวงจันทร์กับกระโจมไฟชุมพรเขตอุดมศักด ์ ิ
ั
หำกยืนอยู่ที่หำดม้ำน�้ำ หันหน้ำไปทำงเขำแหลมปู่เจ้ำ ส่งผลให้ผู้กระท�ำพิธีมีโอกำสซึมซับรับพลังท้งจำกกระโจมไฟ
ิ
่
จะมองเห็นภำพท่ไม่สำมำรถมองเห็นได้จำกจุดเสริมพลัง ชุมพรเขตอุดมศักด์ และจำกดวงจันทร์ได้อย่ำงเต็มที จึงเป็น
ี
่
ี
่
ี
่
ื
้
ุ
ิ
ี
ั
ั
�
ิ
ชีวิตตำมธรรมชำติท่อ่น ๆ (UNSEEN) คือ กระโจมไฟ ทมาของการเรยกชอ พธแชตว และอาบนา ณ จดเสรมพลง
ี
ื
�
ชุมพรเขตอุดมศักด์ ท่ก�ำลังส่องไฟไปโดยรอบ ๓๖๐ องศำน้น ชีวิตตามธรรมชาต “หัวมังกร” บริเวณหาดม้านาแห่งน ี ้
ั
ิ
ี
ิ
้
ื
ิ
์
ื
้
ึ
้
็
�
ั
�
้
ี
ในอีกช่อหน่งว่า “พธอำบนำแสงจนทรคนเพญ ณ หำดมำนำ
ั
ิ
ู
ุ
่
ี
้
ิ
เขำแหลมปเจำ จดเสรมพลงชวตตำมธรรมชำต “หวมังกร””
ั
ิ
ิ
ู
ี
ี
้
์
ิ
นอกจากน บนเขาแหลมป่เจ้ายังมส่งศกดสิทธท่เป็น
ั
ิ
ี
์
ปูชนียสถานประดิษฐานพระรูปจาลอง และบรรจุพระอัฐ ิ
�
ของ พลเรอเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากร
ื
์
เกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักด “องค์บิดำของ
ิ
๔
่
ทหำรเรือไทย” ตามทีทรงมพระประสงคไวตงแตครงยงทรง
้
ั
้
ี
้
ั
่
์
ั
์
ู
ิ
ั
ื
ั
่
็
ี
ุ
พระชนมอย อนเปนเหตให พลเรอเอก ทววฒ พงศพพฒน ์
ุ
ิ
้
์
�
ขณะดารงตาแหน่งรองเสนาธิการฐานทัพเรือสัตหีบ ในปี พ.ศ.
�
๒๕๔๓ เกิดแรงบันดาลใจประพันธ์คาขวัญเทิดพระเกียรต ิ
�
ึ
ี
ไว้ท่ซุ้มทางข้นเขาแหลมปู่เจ้าฝั่งฐานทัพเรือสัตหีบว่า ปู่เจ้ำ
ี
เสียดฟ้ำ ท่สถิตองค์บิดำ ทหำรเรือกล้ำ “อำภำกร” สืบมำ
จนถึงปัจจุบันอีกด้วย ภูมิปัญญำมนุษย์อำศัยพลังธรรมชำต ิ
เขาแหลมปู่เจ้ายามค�่าคืนที่ดูคล้ายมังกรก�าลังพ่นไฟไปโดยรอบ
เสริมพลังชีวิต
้
�
ดูคล้ำยกับมังกรตัวใหญ่ใจดีก�ำลังพ่นไฟให้แสงบอกชำวเรือ พิธีแช่ตัว และอาบนา ณ จุดเสริมพลังชีวิตตามธรรมชาต ิ
่
ี
ให้ท่หมำยเขำแหลมปู่เจ้ำ สอดคล้องกับท พลเรือตร ี ท้ง ๒ แห่ง นิยมกระทากันในคืนท่จันทร์เต็มดวงเปี่ยมพลัง
ี
ั
�
ี
๓
�
�
กรีฑำ พรรธนะแพทย์ ได้กล่าวเปรียบเทียบกระโจมไฟ แสงสว่างอย่างสมบูรณ์ หากกระทาพิธีตรงกับวันสาคัญ
ชุมพรเขตอุดมศักด ไว้ว่า “ดุจดวงประทีปแห่งท้องทะเลไทย” ทางพระพุทธศาสนา เช่น วันมาฆบูชา (เพ็ญเดือน ๓)
์
ิ
และหำกยืนอยู่ ณ จุดกระท�ำพิธีท่หำดม้ำน้ำ ก็จะสำมำรถ วิสาขบูชา (เพ็ญเดือน ๖) วันอาสาฬหบูชา (เพ็ญเดือน ๘)
ี
�
๓ พลเรือตร กรีฑา พรรธนะแพทย์ เขียนบทความเร่อง กระโจมไฟชุมพรเขตอุดมศักด์ “ดวงประทีปแห่งท้องทะเลไทย” ลงพิมพ์เผยแพร่ในนิตยสาร
ื
ิ
ี
นาวิกศาสตร์ ฉบับเดือนพฤศจิกายน ๒๕๓๕ ต่อมากองทัพเรือยกฐานะจาก “กระโจมไฟชุมพรเขตอุดมศักด์” เป็น “ประภำคำรชุมพรเขตอุดมศักด์”
ิ
ิ
เมื่อ ๒๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
๔ เสด็จในกรมหลวงชุมพรฯ ทรงเคยรับสั่งกับ นำวำตรี หลวงเจนจบสมุทร์ (เจือ สหนำวิน) ว่า “ถ้ำแกเติบโตข้ำงหน้ำ จงช่วยจัดท�ำอนุสำวรีย์
ตัวฉันไว้บนแหลมปู่เฒ่ำ...” และทรงมีพระประสงค์ ให้บรรจุพระอัฐิของพระองค์ท่านไว้ด้วย เป็นเหตุให้มีการเรียก “เขำแหลมปู่เฒ่ำ หรือเขำแหลมปู่เจ้ำ”
ในอีกชื่อหนึ่งว่า “เขำกรมหลวงฯ” ในเวลาต่อมา
56
นาวิกศาสตร์
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓

