Page 62 - นาวิกศาสตร์ ธันวาคม ๒๕๖๒
P. 62
ี
ี
ื
ี
นายทหารเรือของราชนาวีอังกฤษมีเคร่องแบบใส่ ท่คนเห็นว่าเป็นพวกเหลือขอ อาจเป็นพวกข้เมาท่หาได้
ั
ื
ต้งแต่ปี ค.ศ. ๑๗๔๘ (พ.ศ. ๒๒๙๑) แต่ว่าเคร่องแบบของ จากบริเวณหน้าร้านเหล้าแถว ๆ ท่าเรือ เป็นแมงดา เป็นคน
ี
กะลาสีเรือยังไม่มี ผ่านไปเกือบ ๕๐ ปี กะลาสีเรือเริ่มมี คุมซ่อง หรืออาจเป็นพวกท่สังคมไม่ยอมรับก็ได้ งานบนเรือ
การแต่งตัวคล้าย ๆ กัน ไม่ใช่เพราะว่ามีเครื่องแบบแต่ว่า เป็นงานที่คนไม่อยากจะท�า
ื
�
ั
�
เป็นเพราะว่าร้านค้าบนเรือน้นจาหน่ายเส้อผ้าสาเร็จรูป ชุดกะลาสีที่สวมใส่กันอย่างเป็นทางการ คือ ในช่วง
้
ื
้
ื
้
ี
่
ี
่
่
ื
ั
�
ี
่
ทาให้แต่ละคนซอเสอผ้าเครองแต่งกายทคล้ายกน ปลายศตวรรษท ๑๘ และตนศตวรรษท ๑๙ ไมมการระบ ุ
่
ี
เพราะความจ�าเป็น แม้ว่าทหารบกจะมีเครื่องแบบที่เป็น เหตุผลว่าท�าไมถึงเป็นเช่นนั้น แต่มีบันทึกของนายทหาร
ั
ทางการแล้วท้งนายทหารและทหารเกณฑ์ แต่กะลาสีเรือ บางท่านเขียนถึงการให้ลูกเรือเปล่ยนจากสวมชุด
ี
�
ู่
ั
�
ื
่
ี
ก็ยังคงต้องใส่เส้อผ้าท่หาซ้อเองอย ไม่มีคาอธิบายว่าทาไม ตามใจชอบ มาเป็นสวมใส่เครองแบบทเหมอน ๆ กน
ื
ื
ี
ื
่
ั
กองทัพเรืออังกฤษถึงไม่กาหนดเคร่องแบบกะลาสีเรือ ในช่วงหลังสงครามปฏิวัติฝร่งเศส ค.ศ. ๑๗๘๙ (พ.ศ. ๒๓๓๒)
ื
�
ั
ั
ิ
ี
ั
ี
ิ
ั
มนกประวตศาสตร์ได้มข้อสงเกตว่า อาจเป็นเพราะว่า โดยเร่มแรกแม้จะไม่มีการส่งเป็นลายลักษณ์อักษรจาก
การรบทางบกต้องมีการแบ่งฝ่ายให้ชัดเจน จะได้แยกศัตร ู กองทัพเรือ แต่ในการแถวในเรือนั้น ช่วงนี้เริ่มมีการสั่งให้
�
�
้
กับพวกเดียวกันได้ แต่เพราะว่าการรบทางทะเลน้น “แถวด้วยชุดสีขาว” หรือ “แถวในชุดสีนาเงิน” ทาให้เห็น
ั
ใช้ธงเรือเป็นการแสดงฝ่าย ท�าให้ไม่มีความจ�าเป็นต้องมี ว่าเริ่มมีแนวโน้มที่จะมีเครื่องแบบให้ใส่
เครื่องแบบ ช่วงแรก ๆ น ร้านขายของบนเรือจะนาผ้ามาขาย
�
้
ี
หรือบางครั้งก็น�าชุดส�าเร็จมาขายให้กะลาสีเรือด้วย มีทั้ง
สีขาว สีน�้าเงิน ชุดแฟนซี เป็นลายตาราง ลายหมากรุก
แนว ๆ ผ้าแบบชาวสก็อต หรือแบบผ้าขาวม้า กะลาสีเรือ
ที่ซื้อผ้าไปก็จะท�าการตัดเย็บกันเอง ท�าให้เสื้อผ้ามีความ
�
หลากหลายกันในเรือลาเดียวกัน และแตกต่างกันมาก
กับเรือลาอ่น จนกระท่ง “เร่ม” มีการส่งการให้กะลาสีเรือ
ั
ั
ิ
ื
�
สวมใส่เครื่องแบบในปี ค.ศ. ๑๘๕๗ (พ.ศ. ๒๔๐๐) และ
ประกาศเป็นทางการเป็นลายสักษณ์อักษรใน ค.ศ. ๑๘๙๐
(พ.ศ. ๒๔๓๓)
ุ
ี
ชดกะลาสเป็นชุดแฟนซีของ Royal Family และ
ชุดส�าหรับเด็ก
ั
ี
ื
หากเคยชมภาพยนตร์ฝร่งหลาย ๆ เร่อง ท่ดัง ๆ หน่อย
คือ เรื่อง “มนต์รักเพลงสวรรค์ (the sound of music)”
จะเห็นว่าเด็ก ๆ ทั้งชายและหญิงสวมชุดกะลาสีกัน หรือ
กะลาสีนิยมสวมหมวกทรง Monmouth หากเคยชมภาพเก่า ๆ ของพระราชโอรส ในพระบาทสมเด็จ
เพื่อป้องกันความหนาว พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท ๕ หลาย ๆ พระองค์
ี
่
ั
ี
ึ
ี
ี
ี
อีกเหตุผลหน่งท่น่าจะเป็นไปได้เพราะว่า กะลาส ี ทรงชุดกะลาส ท้ง ๆ ท่ไม่ได้เป็นทหารเรือแต่ท่สวมชุด
ั
็
็
ี
�
ท่ทางานอยู่บนเรือในยุคน้นมีสถานะในสังคมท่ตามาก กะลาสเพราะว่าได้กลายเป็นชดนยมสาหรบให้เดกเลก
�
ี
ิ
่
ุ
�
ี
ั
ิ
ั
�
เป็นพวกชนช้นแรงงาน หรือเป็นทาส เป็นนักโทษ เป็นคน สวมใส่ โดยมีจุดเร่มต้นของการกลายมาเป็นชุดสาหรับเด็ก
นาวิกศาสตร์ 60
ปีที่ ๑๐๒ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๒

