Page 31 - ดำแล้วไม่โผล่
P. 31
ำ
ำ
ำ
ำ
ราษฎรมีสาระสาคัญคือ ให้สร้างกาลังทางเรือให้เสร็จ ทหารเรือไทยเดินทางไปศึกษาการใช้เรือดาน้า
ภายในเวลา ๖ ป ประกาศใช้เป็นกฎหมายในวันท ที่ญี่ปุ่น
ี
ี
่
ิ
๘ เมษายน พ.ศ.๒๔๗๘ แต่ให้เร่มใช้ต้งแต่วันท ๑ เมษายน วันที่ ๓๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๗๙ คณะนายทหาร
ั
ี
่
ี
ำ
่
ึ
ึ
พ.ศ.๒๔๗๘ (ซ่งเป็นวันข้นปีใหม และปีงบประมาณ และจ่าท่จะไปศึกษาการใช้เรือดานำ้า ออกเดินทาง
ี
ุ
ในสมัยน้น) บุคคลสาคัญในการเสนอกฎหมายน้คือ จากประเทศสยามไปประเทศญ่ป่นโดยเรือนาจิซานมาร ู
ั
ี
ำ
๖
นาวาเอก หลวงสินธุสงครามชัย(ต่อมาเป็นพลเรือเอก (NASHISAN MARU) มีนายเรือเอก สวัสดิ์ จันทนมณี
ู
ิ
์
สินธุ์ กมลนาวิน) (นาวาเอก สวัสด จันทนี) เป็น “ผ้ควบคุมทหารแผนก
ำ
ั
ำ
กองทัพเรือได้ออกคาส่งต้ง “กรรมการพิจารณา เรือดำาน้า” (หัวหน้าคณะ) ใช้เวลาเดินทางในเรือรวม ๑๒ วัน
ั
ื
ุ
ู
ี
ำ
ี
่
โครงการบารุงกองทัพเรือ ในวันท ๙ เมษายน เม่อถึงประเทศญ่ป่นแล้ว บริษัทอ่ต่อเรือได้ส่งไปเรียน
ุ
ี
ิ
ี
พ.ศ.๒๔๗๘ โดยม นาวาเอก พระยาวิจารณ์จักรกิจ ภาษาญ่ป่นในโรงเรียนท่เมือง ฟุนาบาช กรุงโตเกียว
ี
ึ
ู
ู
ี
ี
ู
่
ู
(ต่อมาเป็นพลเรือตรี) รักษาการแทนผ้บัญชาการทหารเรือ อย่ระยะเวลาหน่ง แล้วจึงไปอย ณ ท่พักในอ่ต่อเรือท่เมือง
ำ
ื
ื
ู
ำ
ี
ั
เป็นประธานกรรมการ มีนายทหารช้นผ้ใหญ่เป็น โกเบ เพ่อศึกษาการใช้เรือดาน้าต่อไป เม่อเรียนอย่ท่โกเบ
ู
ั
้
่
ั
์
ื
ิ
ี
กรรมการอีก ๑๒ ท่าน ในการประชุมคร้งแรก ได้ไมนาน นายเรอเอก สวัสด จนทนมณ หวหนาคณะ
ั
นาวาเอก หลวงสินธุสงครามชัย เสนาธิการทหารเรือ ก็ต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯเพราะสุขภาพไม่ใคร่ด ี
และเป็นกรรมการ ได้แถลงให้คณะกรรมการทราบว่า วันที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๘๐ เป็นวันที่นายเรือเอก
ี
์
ิ
ำ
ั
ำ
“จะสร้างเรือดาน้าขนาด ๓๐๐ – ๔๐๐ ตัน ๓ ลา” สวัสด จันทนมณ ได้รับคาส่งให้กลับกรุงเทพฯ
ำ
ำ
แต่ถ้ามีเงินพอจะสร้างถึง ๕ ลำา จึงได้ส่งหน้าที่การปกครองให้ นายเรือเอก ซุ้ย นพคุณ ๗
ึ
ี
ำ
ในที่สุดคณะกรรมการได้ตกลงสร้างเรือดำาน้าขนาด (พลเรือตร กนก นพคุณ) ซ่งเป็นนายทหารอาวุโส
ุ
้
ำ
ื
็
้
ำ
ู
ั
๓๗๐ ตัน จำานวน ๔ ลำา โดยบริษัทมิตซูบิชิของประเทศญี่ปุ่น ถดไป เปน“ผควบคมทหารแผนกเรอดานา”
และได้ส่งนายทหารสัญญาบัตร และ ประทวนไปศึกษา แทนนายเรือเอก สวัสดิ์ จันทนมณี
่
ี
ุ
ุ
ำ
ี
การใช้เรือดาน้าที่ประเทศญ่ป่นโดยจักรพรรดินาวีญ่ป่น วันท ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๘๐ นายเรือเอก สวัสด ์ ิ
ี
ำ
ี
ี
ั
ี
จัดครูและเรือฝึกให ทั้งน้ต้องเรียนภาษาญ่ป่นก่อนช่ว จันทนมณ ก็ลงเรือ BATAVIA MARU ท่โกเบ เดินทางกลับ
้
ุ
ี
์
ิ
ี
ระยะเวลาหนึ่ง กรุงเทพฯ นายเรือเอก สวัสด จันทนมณ ได้จากแผนก
ั
็
้
ิ
้
ำ
ื
้
้
ำ
่
่
้
กองทัพเรือไดลงนามเซ็นสัญญากับบริษทมิตซูบช ิ เรอดานาสยามดวยความเปนหวง และอาลยยง ไดเนน
ั
ิ
ำ
ื
ู
ำ
ู
ี
่
แห่งเมืองโกเบ เม่อวันท ๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๗๘ สร้าง คาอาลัยฝากไว้กับผ้ท่อย่ข้างหลังว่า “ทางานเพ่อชาติ”
ื
ี
ำ
ี
ำ
เรือดานำ้าจานวน ๔ ลำา เรือดานำ้าท่กองทัพเรือสยามม ี และ “กอดคอกันตาย”
ำ
ี
ิ
์
ี
ำ
ำ
เป็นครั้งแรก เป็นเรือดำาน้าขนาดเล็ก มีระวางขับน้าเพียง ขณะท่นายเรือเอก สวัสด จันทนมณ เป็นหัวหน้า
ื
ู
ั
๓๗๐ ตันเท่านั้น แต่ก็มีประสิทธิภาพสูง ถ้าเปรียบเทียบ คณะอย่น้นท่านได้เข้มงวดกวดขันมากในเร่อง ระเบียบ
่
ี
ู
ำ
ำ
ขนาดของเรือดำาน้าทั่วไปแล้ว เรือดำาน้าขนาดนี้ก็เป็นแต่ วินัย ความเป็นอย ขนบธรรมเนียมประเพณ มารยาท
เพียงเรือดำาน้าชนิดรักษาชายฝั่งทะเลเท่านั้น ตลอดจนการสังคม ขอยกตัวอย่างเช่น.
ำ
๖. นายเรือเอก สวัสดิ์ จันทนมณี (นาวาเอก สวัสดิ์ จันทนี) แรกทีเดียวนั้นท่านใช้นามสกุล “จันมะนี” มาตลอดจนกระทั่งเรียนถึงชั้นมัธยม ๗
ี
ี
จึงเปล่ยนนามสกุลเป็น “จันทน์มณี” แล้วใช้นามสกุล จันทน์มณี มาจนถึงนายเรือตรี จึงเปล่ยนเป็น “จันทนมณี” ใช้มาถึงจน ถึงนาวาโท
ำ
และต่อมา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา ประธานคณะผ้สาเร็จราชการแทนพระองค์ได้ประทานนามสกุล เป็น
ู
“จันทนี” ตอนท่านเป็นนาวาเอก ท่านบอกว่า “นามสกุลนี้เป็นนามสกุลที่เซ็นรับเงินเดือน ขืนเปลี่ยนไปอีกซีเงินเดือนจะได้อด”
ี
ุ
๗. นายเรือเอก ซ้ย นพคุณ (พลเรือตรี กนก นพคุณ) เปล่ยนช่อจาก “ซ้ย” เป็น “กนก” ในปี พ.ศ.๒๔๘๔ ขณะท่ท่านดารงยศเป็นนาวาโท
ื
ำ
ี
ุ
52 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๘ เล่มที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๘

