Page 19 - นาวิกศาสตร์ เดือน กรกฎาคม ๒๕๕๔
P. 19
กล่าวนำ ประจักษ์ศิลปาคม จนทำให้กรมทหารเรือเจริญรุดหน้า
ก่อนรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อย่างรวดเร็ว แต่เป็นที่น่าเสียดายมีเหตุการณ์เกิดขึ้น
กิจการทหารของไทยไม่ว่าจะเป็นทหารบก ทหารเรือ ในช่วง พ.ศ.๒๔๕๔ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความเศร้า
เราจำเป็นจะต้องจ้างชาวต่างประเทศมาเป็นที่ปรึกษา เสียใจให้แก่บรรดาเหล่าทหารเรือ ผู้ใต้บังคับบัญชา
หรือเป็นผู้ควบคุม ผู้บังคับบัญชาของทหาร โดยเฉพาะ เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งพระองค์ท่านถูกเข้าใจผิดบางประการ
อย่างยิ่งกิจการทหารเรือ ซึ่งต้องใช้เทคโนโลยีในการดำเนินการ จึงจำเป็นต้องออกจากราชการทหารเรือไป จนถึงปี พ.ศ.๒๔๖๐
ดังนั้น เพื่อพัฒนากิจการทหารให้ทัดเทียมอารยประเทศ นานถึง ๖ ปี ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ จึงได้จัดส่งทั้งพระราชโอรสและสามัญชน เจ้าอยู่หัว ทรงเข้าพระทัยถึงความซื่อสัตย์ จงรักภักดี
ไปศึกษาต่อ ณ ต่างประเทศ เพื่อนำความรู้มาพัฒนาประเทศ และความสามารถของเสด็จในกรม จึงได้โปรดให้เข้า
ต่อไป ในด้านกิจการทหารเรือพระราชโอรสพระองค์ รับราชการเป็นเจ้ากรมจเรทหารเรือ ในปี พ.ศ.๒๔๖๐
แรกที่ท่านได้ส่งไปรับการศึกษา ณ ต่างประเทศ คือ และได้พระราชทานเลื่อนพระอิสริยยศ ตำแหน่งเป็น
พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ พระราชโอรสองค์ที่ ๒๘ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากร
ซึ่งทรงส่งไปรับการศึกษาวิชาการทหารเรือ ณ ประเทศ เกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และดำรง
อังกฤษ พร้อม ๆ กับเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ พระราชโอรส ตำแหน่ง เสนาธิการทหารเรือ ในปี พ.ศ. ๒๔๖๑ และเลื่อน
องค์ที่ ๒๙ ซึ่งต่อมา เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ ได้รับการสถาปนา เป็นเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๖
เป็น มกุฎราชกุมาร แทนเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ ซึ่งตั้งแต่
ทิวงคต เมื่อ พ.ศ.๒๔๓๘ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัว จึงทรงมีพระมหากรุณาโปรดเกล้าให้เปลี่ยนไป ที่มาของที่ดินทรงสงวน
ศึกษาวิชาการทหารบกและวิชาการปกครองที่วิทยาลัย ดังที่กล่าวไปแล้วพระองค์เป็นผู้มีความมุ่งมั่น
การทหาร แซนเฮิสต์และมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ดแทน ตลอดจนเป็นผู้ที่ชอบท่องเที่ยวและสำรวจสถานที่
ต่าง ๆ เพื่อกิจการทหารเรือ พระองค์ท่านได้เคยสำรวจ
พื้นที่่สัตหีบไว้ว่าเหมาะที่จะเป็นที่ตั้งของฐานทัพเรือ
การเข้ารับราชการของเสด็จในกรม ฯ เป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น ในกันยายน พ.ศ.๒๔๖๕ จึงทรงมี
สำหรับเสด็จในกรม ฯ เมื่อทรงศึกษาวิชาทหารเรือ พระราชหัตถเลขากราบบังคมทูลขอพระราชทานที่ดิน
จบแล้ว ในปี พ.ศ.๒๔๔๓ จึงได้เสด็จนิวัตพระนคร ต่อล้นเกล้ารัชกาลที่ ๖ โดยทรงเน้นให้เห็นคุณและโทษ
แล้วได้ทรงรับราชการในตำแหน่งแรก คือ Flag Lieutenant ของการจัดสัตหีบเป็นฐานทัพเรือไว้ ดังต่อไปนี้
หรือ นายธง (นายทหารคนสนิท) ของพลเรือโท พระเจ้า
บรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม เสนาบดีกระทรวง “ คุณ
กลาโหม และรั้งตำแหน่งผู้บัญชาการกรมทหารเรือ ๑. อยู่เป็นสถานกลางของอ่าวสยาม
ในขณะนั้น ๒. เป็นต้นทางของ Vital Point คือ แม่น้ำเจ้าพระยา
โดยได้รับพระราชทานยศ เป็น นายเรือโท พระเจ้า ๓. น้ำลึกพอที่จะเป็นอ่าวเรือใหญ่หรือที่ฝึกซ้อมยิง
บรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวง ตอร์ปิโดได้
ชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ๔. มีเกาะต่าง ๆ เป็นที่กำบังสำหรับเล็ดลอดออกกระทำ
เสด็จในกรมได้รับราชการด้วยความวิริยะ อุตสาหะ การยุทธวิธีด้วยเรือเล็กได้สะดวก
และจากอุปนิสัยของพระองค์ท่าน คือ ความซื่อตรง ๕. ที่บนบกไม่ได้ตกเป็นสิทธิ์ขาดของผู้หนึ่งผู้ใด โดยทรง
ซึ่งเป็นตามพระราชวินิจฉัยของล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ พระมหากรุณาธิคุณให้เทศาภิบาล หวงห้ามไว้เป็นพระคุณ
ประกอบกับที่ทรงมีใจนักเลง รักลูกน้อง และมีความมุ่งมั่น แก่ทหารเรืออย่างยิ่ง
ที่จะพัฒนากรมทหารเรือให้เจริญรุดหน้าให้ทัดเทียม ๖. ทางบกมีทางติดต่อกับทางรถไฟสายปราจีนได้สะดวก
อารยประเทศ เพื่อไม่ให้ต่างชาติมารังแกได้อีก ไม่ต้องกลัว Isolation
ท่านได้พัฒนากองทัพเรือในทุก ๆ ด้าน จนเป็นที่ไว้วาง ๗. โดยข้อ ๖. นั้นเองอาจติดต่อกับกำลังทางทหารบก
พระราชหฤทัย ทั้งจากองค์ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ และกรมหลวง และเป็นปีกหนึ่งของกองทัพบกฝ่ายตะวันตกได้สะดวก
๐16 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔

