Page 34 - หนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทย ประถม
P. 34
25
ี่
ทมีความกล้าหาญในการรบจนดาบหัก เมื่อครั้งป้องกันเมืองพิชัย ในปี พ.ศ. 2316 สมเด็จ
เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ต่อมาคือ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จ
พระบวรเจ้ามหาสุรสิงหนาท นับเป็นสมัยแห่งการท าสงครามอย่างแท้จริง
2. สร้างพระราชวังกรุงธนบุรี ให้เป็น
พระราชวังหลวง เป็นสถานที่ประทบและว่าราชการ
ั
ปรับปรุงป้อมวิไชยเยนทร์ และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น
ป้อมวิไชยประสิทธิ์ ต าแหน่งทตั้งของพระราชวัง
ี่
เป็นจุดส าคัญทางยุทธศาสตร์ สามารถสังเกตการณ์
ั
ได้ในระยะไกล และใกล้เส้นทางคมนาคมการเดินทพ
พระราชวังเดิม สมัยธนบุรี
(ที่มาภาพ : หนังสือ “ประวัติศาสตร์ชาติไทย” ที่ส าคัญซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของกองทัพเรือ
กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม)
3. ด้านการปกครอง หลังจากกรุงศรีอยุธยาแตก กฎหมายบ้านเมืองกระจาย
สูญหายไปมาก จึงสืบเสาะ ค้นหา รวบรวม ช าระกฎหมายให้เหมาะสมแก่กาลสมัย ฉบับใด
ไม่เหมาะสมก็โปรดให้แก้ไขเพิ่มเติม หรือยกเลิก เพื่อให้ราษฎรได้รับผลประโยชน์มากขึ้น
ออกพระราชก าหนดสักเลก พ.ศ. 2316 เพื่อสะดวกในการควบคุมก าลังคน
4. ด้านเศรษฐกิจ จากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ส่งผลกระทบในด้านเศรษฐกิจ
อย่างร้ายแรง พระองค์จึงงดเก็บส่วยอากร 3 ปี เมื่อเข้ารัชกาลใหม่ ทรงทานุบ ารุงการค้าขาย
ี่
ทางเรืออย่างเต็มที่ ส่งเสริมการน าสนค้าพื้นเมืองไปขายทประเทศจีน และทรงพยายามผูกไมตรี
ิ
กับประเทศจีน เพื่อประโยชน์ในด้านความมั่นคงของชาติ และประโยชน์ในด้านการค้า
5. ด้านศาสนา ให้ตรากฎหมายว่าด้วยวัตรปฏิบัติของพระสงฆ์ในปี พ.ศ. 2316
ถือเป็นกฎหมายพระสงฆ์ฉบับแรกของไทย และบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอารามต่าง ๆ เช่น
วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร โปรดเกล้าให้เขียนภาพ
ั้
“สมุดภาพไตรภูมิ” เป็นสมุดภาพขนาดใหญ่ของไทย เขียนด้วยสีลงในสมุดทง 2 ด้าน โดยฝีมือ
ช่างเขียน 4 คน ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ ณ หอสมุดแห่งชาติ

