Page 153 - หนังสือลูกเสือกศน.ม.ต้น
P. 153

139



                                7. ก่อนและหลังการให้การพยาบาลที่มีผลต่อสัญญาณชีพ สัญญาณชีพประกอบด้วย

                  ชีพจร อัตราการหายใจ อุณหภูมิร่างกายและความดันโลหิต มีรายละเอียดดังนี้
                                   7.1 ชีพจรเป็นการหดและขยายตัวของผนังหลอดเลือด ซึ่งเกิดจากการบีบตัว


                  ของหัวใจ จังหวะการเต้นของเส้นเลือดจะสัมพันธ์กับการเต้นของหัวใจ การวัดอัตราการเต้น
                  ของหัวใจ วัดนับจากการใช้นิ้วกลางและนิ้วชี้คล าการเต้นของหลอดเลือดแดง ตรงด้านหน้าของ

                  ข้อมือ (ด้านหัวแม่มือ) ที่อยู่ต่ ากว่าฐานของนิ้วหัวแม่มือ ประมาณ 60 - 100 ครั้งต่อนาท  ี

                                   7.2 อัตราการหายใจ การหายใจเป็นการน าเอาออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายและน า

                  คาร์บอนไดออกไซด์ออกจากร่างกาย การวัดอัตราการหายใจ ดูจากการขยายตัวของช่องอก

                  ประมาณ 12 - 20 ครั้งต่อนาท  ี

                                   7.3 อุณหภูมิร่างกายเป็นระดับความร้อนของร่างกาย ซึ่งเกิดจากความสมดุลของ

                  การสร้างความร้อนของร่างกายและการสูญเสียความร้อนของร่างกาย มีหน่วยเป็นองศาเซลเซียส

                  (°C) หรือ องศาฟาเรนไฮต์ (°F) ซึ่งจะไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากนักถึงแม้อุณหภูมิภายนอกอาจจะ

                  เปลี่ยนแปลง ค่าปกติ ประมาณ 37 องศาเซลเซียส +/- 0.5 องศาเซลเซียส

                                                                           ี่
                                   7.4 ความดันโลหิต เป็นแรงดันของเลือดทไปกระทบกับผนังเส้นเลือดแดง
                  มีหน่วยเป็นมิลลิเมตรปรอท (มม.ปรอท หรือ mm.Hg.) ความดันโลหิตใช้ตรวจวัดจากเครื่องวัด

                  คนปกติจะมีความดันโลหิต ประมาณ 90/60 - 120/80 มิลลิเมตรปรอท



                  กิจกรรมท้ายเรื่องที่ 3 การวัดสัญญาณชีพและการประเมินเบื้องต้น

                                                                                    ู้
                  (ให้ผู้เรียนไปท ากิจกรรมท้ายเรื่องที่ 3 ที่สมุดบันทึกกิจกรรมการเรียนรประกอบชุดวิชา)


                  เรื่องที่ 4 วิธีการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน
                                การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (Cardiopulmonary Resuscitation : CPR) เป็น


                  การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เมื่อเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นกะทนหัน เพื่อน าออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย
                                                                        ั
                                                                                            ั่
                  และช่วยให้โลหิตมีการไหลเวียนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกาย จนกระทงระบบต่าง ๆ
                  กลับมาท าหน้าที่ได้เป็นปกติ

                                สาเหตุททาให้เกิดภาวะหยุดหายใจ และหัวใจหยุดเต้นกะทนหัน ได้แก่ หัวใจ
                                                                                         ั

                                        ี่
                  ขาดเลือด ไฟฟ้าดูด ได้รับสารพิษ จมน้ า อุบัติเหตุต่าง ๆ เป็นต้น
                                อาการของผู้ที่ต้องได้รับการช่วยเหลือ โดยการทา CPR คือ หมดสติ หยุดหายใจ

                  หรือมีการหายใจผิดปกติ (Gasping)
   148   149   150   151   152   153   154   155   156   157   158