Page 155 - หนังสือลูกเสือกศน.ม.ต้น
P. 155
141
ี
ก็เป่าลมเข้าไปในปากผู้ป่วยอีก ทาเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ ประมาณ 15 - 20 ครั้งต่อนาท จนกว่าผู้ป่วย
จะหายใจได้เอง ระหว่างปฏิบัติให้ศีรษะผู้ป่วยแหงนไปข้างหลังตลอดเวลา
่
5.2 การช่วยหายใจโดยวิธีเป่าจมูก ให้ผู้ป่วยอยู่ในทาเช่นเดียวกับวิธีช่วยหายใจ
ด้วยวิธีเป่าปาก แต่ใช้มือข้างหนึ่งดันคางผู้ป่วยให้ปากปิดสนิท หายใจเข้าลึก ๆ เอาปากประกบ
ลงไปบนจมูกผู้ป่วยให้แนบสนิท แล้วเป่าลมเข้าไป ดูว่าหน้าอกผู้ป่วยพองขึ้นหรือไม่ ถ้าพองขึ้น
แสดงว่าลมเข้าไปในปอดได้ดี ถอนปากออกแล้วให้มือจับคางผู้ป่วยให้อ้าออก เพื่อให้ผู้ป่วย
หายใจออกได้ทางปาก เมื่อผู้ป่วยหน้าอกยุบลง ก็เป่าลมไปทางจมูกเช่นเดิมอีก ทาเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ
จนกว่าผู้ป่วยจะหายใจได้เอง
่
5.3 การช่วยหายใจโดยการยกแขนและกดทรวงอก ให้ผู้ป่วยอยู่ในทาเช่นเดียวกับ
สองวิธีแรก พับแขนผู้ป่วยเข้าหากันไว้บนอก นั่งคุกเข่าอยู่เหนือศีรษะผู้ป่วย จับข้อมือผู้ป่วยทง
ั้
2 ข้าง ข้างละมือ โย้ตัวไปข้างหน้าเหยียดแขนตรงกดลงไปตรงมือของผู้ป่วย ซึ่งจะเทากับกด
่
ทรวงอกของผู้ป่วยให้หายใจออกขับเอาน้ าออกมา แล้วโย้ตัวไปข้างหลังพร้อมกับจับแขนผู้ป่วย
ทง 2 ข้าง ดึงแยกขึ้นไปข้างบนให้มากทสุดเทาทจะทาได้ จะทาให้ปอดผู้ป่วยขยายตัว ทาให้
ี่
่
ี่
ั้
อากาศไหลเข้าไปได้ ท าเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าผู้ป่วยจะหายใจได้เอง

