Page 65 - ข้อขัดแย้ง ล่าสุด
P. 65
(2) ต้องตรวจสอบข้อพิพาทหรือข้อหาตามกฎหมาย เช่น ประเภทคดีแพ่ง คดีอาญา
หรือความผิดที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเรื่องเดียวกันหรือประเด็นเดียวกันกับเนื้อหาที่ได้จัดทําบันทึก
ข้อตกลงระงับข้อพิพาทนั้นหรือไม่รวมทั้งต้องตรวจสอบมูลเหตุที่มาของข้อพิพาท ว่ามี
ลักษณะต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายหรือไม่เป็นการพ้นวิสัยหรือไม่เป็นการขัดต่อความสงบ
เรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือไม่
(3) ต้องตรวจสอบเอกสารแสดงถึงความสมัครใจเข้าร่วมไกล่เกลี่ย เช่น หนังสือหรือใบ
ตอบรับเข้าร่วมไกล่เกลี่ยข้อพิพาท (ถ้ามี) หรือบันทึกการขอเข้าร่วมไกล่เกลี่ยด้วยความสมัคร
ใจ และในบันทึกข้อตกลงระงับข้อพิพาทนี้ จะต้องปรากฏถ้อยคําที่แสดงถึงความสมัครใจของ
คู่กรณีทั้งสองฝ่ายที่ตกลงกันจัดทําบันทึกนี้โดยไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกบังคับ ขู่เข็ญ หลอก
ลวง หรือมีการฉ้อฉลหรือกระทําการโดยมิชอบด้วยประการใดในการจัดทําบันทึกดังกล่าว
(4) ต้องตรวจถ้อยคําเนื้อหาในบันทึกข้อตกลงในสาระสําคัญ เช่น การชดใช้
เยียวยาค่าเสียหายมีหรือไม่จํานวนเท่าใด กําหนดระยะนัดจ่ายชดใช้กัน
เมื่อใดด้วยวิธีการใดเงื่อนไขที่กําหนดให้ปฏิบัติ หรืองดเว้นการปฏิบัติ
ต้องระบุให้ชัดเจน ระยะเวลาดําเนินการ หรือแม้แต่หากคู่กรณีไม่ติดใจที่
จะรับการชดใช้เยียวยาความเสียหาย ก็ให้จดบันทึกไว้ในข้อตกลงอย่าง
ชัดแจ้งด้วย
การออกหนังสือรับรอง
ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้ การแจ้งผลการพิจารณา
ดําเนินการตรวจรูปแบบของบันทึกข้อตกลง และการ เมื่อผู้มีอํานาจของกรมคุ้มครองสิทธิ
ตรวจข้อกฎหมายของเรื่องที่พิพาทกัน ว่าเป็นไปตาม และเสรีภาพ ได้มีคําสั่งรับรอง หรือไม่รับรอง
กฎหมายว่าด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทหรือไม่ บันทึกข้อตกลงระงับข้อพิพาทในเรื่องที่ส่งมา
เรียบร้อยแล้ว ให้แจ้งผลการพิจารณาไปยังศูนย์ฯเพื่อทราบ
1) กรณีเห็นว่ามีความถูกต้องสมบูรณ์ เป็นไป ภายใน 7 วัน
ตามกฎหมายว่าด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ให้เสนอ
เรื่องต่อผู้มีอํานาจของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
พิจารณาสั่งรับรอง และออกหนังสือรับรองให้
2) กรณีเห็นว่าบันทึกข้อตกลงมีความ
บกพร่องไม่สมบูรณ์และไม่เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วย
การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้เสนอเรื่องต่อผู้มีอํานาจของ
กรมคุ้มครองสิทธิสมบูรณ์และไม่เป็นไปตามกฎหมาย
ว่าด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้เสนอเรื่องต่อผู้มี
อํานาจของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพพิจารณาสั่ง
ไม่รับรอง

