Page 70 - ข้อขัดแย้ง ล่าสุด
P. 70
หน้าที่และอํานาจของศาลยุติธรรม
เมื่อศาลตรวจและรับคําร้องขอแล้ว ก็จะดําเนินกระบวนพิจารณาต่อไปตาม
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง กล่าวคือศาลจะมีคําสั่งให้นัดไต่สวนคําร้อง
กําหนดวันนัดไต่สวนคําร้อง และส่งสําเนาคําร้องขอให้แก่คู่
กรณีอีกฝ่าย โดยสั่งให้คู่กรณีอีกฝ่ายยื่นคําคัดค้านเข้ามา
ตามระยะเวลาที่กําหนด กรณีที่คู่กรณีอีกฝ่ายยื่นคําคัดค้าน
และศาลมีคําสั่งรับเป็นคําคัดค้านแล้ว คู่กรณีฝ่ายยื่นคําร้อง
ขอจะต้องนําพยานหลักฐานมาสืบในวันนัดไต่สวนคําร้อง
และคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งต้องนําพยานหลักฐานมาสืบในวันนัด
สืบพยานตามคําคัดค้าน เพื่อพิสูจน์ว่าข้อเท็จจริงตามที่ตน
อ้างในคําร้องหรือคําคัดค้านนั้นเป็นความจริงและมีนํ้าหนัก
น่าเชื่อถือมากกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง เมื่อทั้งสองฝ่ายสืบพยาน
เสร็จสิ้นแล้วศาลจึงมีคําสั่งขี้ขาดตัดสินคดี
หน้าที่ของคู่กรณีฝ่ายที่เรียกร้อง
เมื่อคู่กรณีฝ่ายที่เรียกร้องให้คู่กรณีอีกฝ่ายปฏิบัติตามข้อตกลงคู่กรณีฝ่ายที่
เรียกร้องนั้นมีภาระการพิสูจน์ คือ ต้องมีพยานบุคคลและพยานเอกสารหรือพยานวัตถุ
มานําสืบเสนอต่อศาลเป็นต้นว่าพยานมีตัวคู่กรณีและผู้ไกล่เกลี่ยหรือนายทะเบียนมาเบิก
ความต่อศาลว่า มีข้อพิพาทเกิดขึ้นและคู่กรณีพิพาทได้สมัครใจเข้าไกล่เกลี่ยข้อพิพาทนั้น
ในหน่วยงานซึ่งดําเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท และได้มีการดําเนินการไกล่เกลี่ยตามขั้น
ตอนของกระบวนการโดยชอบแล้วได้ข้อตกลงตามบันทึกข้อตกลงโดยส่งบันทึกข้อ
ตกลงเป็นพยาน เป็นต้น โดยฝ่ายผู้คัดค้านก็ต้องนําสืบพยานหลักฐานเพื่อหักล้างหรือ
ทําลายนํ้าหนักพยานหลักฐานของคู่กรณีฝ่ายที่เรียกร้องให้รับฟังไม่ได้ และศาลควรรับ
ฟังข้อเท็จจริงฝ่ายตนอย่างไร

