Page 42 - เล่ม 9 พระไม่ทิ้งโยม วัดสุทธิวราราม
P. 42
ี
ปรากฏการณ์ท่พระสงฆ์วัดสุทธิวรารามสวมใส่ชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล
(Personal Protective Equipment: PPE) ตรวจหาเชื้อให้กับคนในชุมชน
ี
ิ
ี
�
ึ
“พระไม่ท้งโยม” ถือได้ว่าเป็นอีกโครงการท่สาคัญท่เกิดข้นภายใต้สถานการณ์
�
ื
การแพร่ระบาดของโรคติดเช้อโควิด-19 และเป็นผู้กระทาการหน่งใน
ึ
กระบวนการช่วยเหลือสังคมและผู้คนให้พ้นจากความทุกข์ทน โครงการ
ดังกล่าวริเร่มจากคณะสงฆ์วัดสุทธิวราราม และได้แพร่ขยายเครือข่ายพระ
ิ
ไม่ท้งโยมไปในแต่ละจังหวัดเพ่อช่วยเหลือประชาชนในสภาวะอยากลาบาก
ื
ิ
�
�
ี
�
�
การทางานสู่ชุมชนเชิงรุกเหล่าน้จาเป็นต้องขยายเครือข่ายการทางานให้
เกิดความย่งยืนผ่านคณะกรรมการชุมชนท่คอยเรียนรู้และตรวจหาเช้อ
ี
ื
ั
ื
ให้กับคนในชุมชน รวมไปถึงการประสานงานเพ่อติดต่อกับศูนย์พักคอย
�
ผู้ป่วยโควิด-19 โดยตรง ในส่วนของผู้มีจิตศรัทธาก็ถือเป็นกาลังสาคัญในการ
�
ด�าเนินงานในครั้งนี้ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มส�าคัญ ได้แก่ กลุ่มผู้มี
ี
ี
จิตศรัทธาท่มีความสัมพันธ์ท่ดีกับวัดและอาสาสมัคร จะเป็นไปในลักษณะของ
ี
�
�
การบริจาคสิ่งของท่จาเป็นสาหรับการดูแลผู้ป่วยติดเช้อ และกลุ่มอาสาสมัคร
ื
ื
ี
ท่เคยเข้ารับการรักษากับศูนย์พักคอยผู้ป่วยโควิด-19 เพ่อการส่งต่อจนหาย
ดี กลุ่มนี้จะกลับมาช่วยดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อรายใหม่ตามความถนัดของแต่ละ
คน เช่น การช่วยจัดการเปลี่ยนผ้าปูที่นอน และการประกอบอาหาร เป็นต้น
ั
�
�
ดังน้นจะเห็นได้ว่าการทางานสาธารณสงเคราะห์สาเร็จลุล่วงไปได้ด้วยการ
ี
ทางานท่อาศัยทุนทางสังคมในลักษณะของเครือข่ายความสัมพันธ์ควบคู่การ
�
�
จิตอาสาสาธารณะท่เข้ามามีส่วนช่วยในการเป็นกาลังหลักในการดาเนินงาน
ี
�
เม่อพิจารณาบทบาทการดาเนินกิจกรรมช่วยเหลือสังคมของ
ื
�
ื
ึ
�
วัดสุทธิวราราม จะพบได้ว่างานจิตอาสาก่อกาเนิดข้นบนพ้นฐานของความ
ี
สมัครใจท่จะช่วยเหลือผู้อ่นในระดับปัจเจกบุคคลของพระสงฆ์แต่ละรูป
ื
ี
ั
ี
ท้งน้ย่งมีความพร้อมเพรียงเป็นหมู่คณะอย่างเช่นท่คณะสงฆ์วัดสุทธิวราราม
ิ
�
สามารถระดมความร่วมมือในการดาเนินกิจกรรมได้ จะเป็นการแสดงออกให้
ึ
เห็นความเป็นอันหน่งอันเดียวกันท่จะใช้บทบาทของวัดและพระสงฆ์ในการ
ี
40 ¤ พระไม่ทิ้งโยม : วัดสุทธิวรารามกับบทบาทสาธารณสงเคราะห์แบบบูรณาการ

