Page 47 - เล่ม 9 พระไม่ทิ้งโยม วัดสุทธิวราราม
P. 47
็
(3) ภาคประชาสังคมและภาคเอกชน จะเหนได้ว่าภาคประชา
สังคมและภาคเอกชนได้เข้ามามีบทบาทร่วมสนับสนุนการสร้างเครือข่ายตาม
�
ี
ื
ความถนัดขององค์กร เม่อพิจารณาจากการดาเนินงานท่วัดสุทธิวราราม
ได้ดาเนินการ จะเห็นว่าเครือข่ายภาคประชาสังคม เช่น ภาคีเครือข่าย
�
�
ของสานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพและหอจดหมายเหต ุ
พุทธทาส อินฺทปญฺโญ จะให้ความสนใจกับการถอดบทเรียนและเผยแผ่
ี
่
ิ
้
่
ิ
้
่
ิ
�
ั
ุ
้
็
ขอมูลขาวสารทวดสทธวรารามและโครงการพระไมทงโยมดาเนนการ เปนตน
�
ี
ในส่วนขององค์กรภาคเอกชนท่มีกาลังความสามารถในการสนับสนุนงบ
ประมาณ เช่น บริษัท ซีพี ออลล์ จ�ากัด (มหาชน) ตลาดหลักทรัพย์แห่ง
ประเทศไทย เป็นต้น ได้เข้ามามีบทบาทในการสนับสนุนงบประมาณ
เพ่อให้การดาเนินงานของวัดสุทธิวรารามมีความเข้มแข็งและสามารถ
�
ื
ช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้กับผู้คนในสังคมได้สม�่าเสมอ
ี
จงจะเหนได้ว่าการเปิดพนทให้เกดการมส่วนร่วมในการระดม
่
ี
้
ิ
ื
็
ึ
ึ
ี
ความช่วยเหลือผู้คนในสังคม โดยมีองค์กรพระพุทธศาสนาซ่งในกรณีน้คือ
วัดสุทธิวราราม ถือเป็นรูปแบบการด�าเนินงานที่ส�าคัญในการผลักดันให้การ
ี
�
ั
ั
สาธารณสงเคราะห์วิถีพุทธท่คณะสงฆ์ไทยจะดาเนินการ ต้งม่นอยู่บนวิถีแห่ง
ื
ั
ี
ิ
จิตอาสาวิถีพุทธกล่าวคือเร่มต้นในระดับปฏิบัติการพ้นท่และต่อเน่อง ท้งน ้ ี
ื
�
ื
เพ่อลดการใช้งบประมาณจานวนมากไปกับการระดมดาเนินกิจกรรมเป็น
�
เฉพาะครั้งคราว จะส่งผลให้เกิดความเหนื่อยล้าให้กับผู้ปฏิบัติงาน อีกทั้งยัง
�
ิ
่
ิ
�
ิ
ั
เป็นภาระดานปจจัยการดาเนนกจกรรมให้กบเครือขายการดาเนนกจกรรมท ่ ี
้
ิ
ั
�
ี
เก่ยวข้องได้ แต่หากสามารถใช้แนวทางการดาเนินกิจกรรมจิตอาสาวิถีพุทธจะ
ื
�
ช่วยส่งเสริมให้เกิดอิสรภาพในการปฏิบัติงานและคาถึงถึงประโยชน์ของพ้นท ี ่
เป็นส�าคัญ ซึ่งจะช่วยให้สามารถค่อย ๆ สร้างการเรียนรู้ ขอบเขตและพื้นที่
การปฏิบัติงานให้มีความย่งยืนได้มากยิ่งข้น จะเห็นได้จากเครือข่ายฐานรากท ่ ี
ั
ึ
สาคัญท่สุดของการดาเนินกิจกรรมของวัดสุทธิวรารามคือเครือข่ายประชาชน
�
ี
�
ี
ี
ท่เป็นหน่วยทางสังคมมีระดับปัจเจกบุคคลหรือครัวเรือนท่สละทรัพย์สิน
สายชล ปญญชิต และพระสุธีรัตนบัณฑิต ¤ 45
ั

