Page 5 - Livestock Production E Magazine-893

ข่าวสารและสาระสำาหรับวงการเลี้ยงสัตว์

ผู้เลี้ยงร้องรัฐลดเสี่ยงก่อนตรวจฟาร์ม

ี
่
ื
ื
จากภารกิจการตรวจสอบห้องเย็นรอบท 3 ของกรมปศุสัตว์และเครือข่าย เพื่อป้องกันการกักตุนสินค้าเน้อหมูอย่างต่อเน่อง
ถึงแม้ว่า การตรวจสถานประกอบการกว่า 50 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดตาก น่าน ระยอง นครศรีธรรมราช สระแก้ว เชียงราย และเชียงใหม่
จะไม่พบการกักตุน แต่ภาครัฐ โดยพาณิชย์จังหวัด ปศุสัตว์จังหวัด และฝ่ายปกครองยังคงเดินหน้าภารกิจต่อ ด้วยการขอเข้าตรวจทั้ง
ฟาร์ม โรงเชือด และห้องเย็นอยู่เป็นระยะ
ภารกิจดังกล่าว ถือเป็นสิ่งที่ช่วยป้องกันไม่ให้มีการกักตุนเนื้อหมู เพื่อผลประโยชน์ทางการค้า และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
ว่า มีปริมาณเนื้อหมูเพียงพอต่อการบริโภค
แต่อย่างไรก็ตาม การเข้าตรวจฟาร์ม ซึ่งเป็นต้นทางของการเลี้ยงหมูนั้น มิใช่อยากเข้ามาเมื่อใดก็ทำาได้โดยเสรี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ในภาวะที่ยังมีโรคที่พร้อมสร้างความเสียหาย ฟาร์มต้องมีระบบป้องกันโรคที่เข้มงวดตามระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity)
ิ
์
ี
ี
ท่มิอาจละเลยอย่างเด็ดขาด แม้จะเป็นเจ้าหน้าท่รัฐก็ต้องปฏิบัติตามข้อกาหนดของฟาร์มตามมาตรฐานของกรมปศุสัตว เร่มจากมีระยะ
ำ
พักโรคหรือกักโรคตามมาตรฐานอย่างน้อย 5 วันก่อนเข้าฟาร์ม และต้องไม่เข้าฟาร์มเลี้ยงสุกรใดๆ ภายในระยะเวลา 5 วัน ขณะที่บุคคล
ื
้
ั
ี
ท่เข้าฟาร์มต้องผ่านการเก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อโรคด้วยวิธี PCR ก่อนเท่านั้น รวมท้งต้องอาบนำาเปลี่ยนเส้อผ้าและรองเท้าเฉพาะ
ในฟาร์ม รถยนต์ภายนอกต้องจอดห่างจากฟาร์ม เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคจากภายนอกระบาดเข้าสู่ฟาร์มอย่างเด็ดขาด
่
้
ี
ด้วยเหตุนี ภารกิจตรวจติดตามผลผลิตท่ภาครัฐดำาเนินการอยู จึงสร้างความกังวลให้กับเกษตรกรผ้เลี้ยงหมูอย่างยิ่ง เพราะการ
ู
เดินทางเข้าตรวจหลายฟาร์มในเวลาจำากัด รวมถึงการเข้าออกโรงเชือด โรงงานแปรรูป และห้องเย็นภายในวันเดียวกัน ถือเป็นความ
เสี่ยงสำาคัญท่มีโอกาสนาเชื้อโรคจากแหล่งต่างๆ เข้าไปท่ฟาร์มได้ และหากเป็นเช่นนั้นย่อมส่งผลกระทบต่อระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ
ี
ำ
ี
มาตรการเฝ้าระวังและป้องกันโดยเฉพาะโรค ASF ในสุกร ที่เกษตรกรผู้เลี้ยงมุ่งมั่นพยายามสร้างและยกระดับฟาร์มขึ้นมาต้องพังลงอย่าง
แน่นอน และอาจกลายเป็น 1 ในสาเหตุที่ทำาให้โรคยังคงสร้างปัญหาต่อไป ซึ่งไม่เป็นไปตามเป้าหมายในการควบคุมโรค
ดังนั้น เจ้าหน้าท่รัฐทุกภาคส่วนต้องให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรคและระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ
ี
ั
้
้
ู
่
่
ี
่
ี
ู
้
ู
่
ั
่
ำ
้
อย่างเครงครด เพือไม่ใหเป็นผ้ทาใหฟารมต้องเผชิญกบความเสยงโดยไม่จำาเป็น เพราะทผานมาเกษตรกรผ้เลียงและผประกอบการต้อง
์
ยื่นแบบ สก.01 เพื่อรายงานปริมาณหมูเป็นประจำาทุกสัปดาห์อยู่แล้ว จึงไม่ห่วงในการติดตามสต็อกผลผลิตในฟาร์ม
ขณะเดียวกัน รัฐควรใส่ใจและเร่งกวาดล้าง “ขบวนการลักลอบนำาเข้าหมู” ในรูปแบบชิ้นส่วนสดแช่แข็ง (Frozen) ที่กำาลังระบาด
ั
อย่างหนักท่วประเทศ มีการประกาศขายผ่านเพจเฟสบุ๊คอย่างโจ๋งคร่มไม่กลัวกฎหมาย ถือเป็นอีกความเสี่ยงสำาคัญท่ต้องปราบปราม
ี
ึ
ไอ้โม่งเหล่าน้ให้หมดไปโดยเร็วท่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้ผ้เลี้ยงต้องเผชิญกับโรคหมูต่างถ่นท่มีโอกาสเข้ามาซ้าเติมอุตสาหกรรมหมูไทยอีก ซึ่ง
ำ
ี
ิ
ู
ี
ี
หากยังไม่เร่งจัดการ เกษตรกรก็อาจไปต่อไม่ได้ เพราะทุกวันนี้ก็ต้องแบกรับต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์อยู่แล้ว
ำ
ี
้
นอกจากนี เนื้อหมูลักลอบนาเข้า ยังทำาลายเศรษฐกิจของประเทศชาติ เพราะรัฐต้องสูญเสียรายได้จากสินค้าท่ไม่ได้เสียภาษีตาม
ี
ระบบ และยังต้องรับภาระการรักษาคนไทยจากความเส่ยงท่ได้รับเชื้อต่างๆ เพราะเชื้อโรคหลายชนิดอยู่ในผลิตภัณฑ์เนื้อหมูสดแช่แข็ง
ี
อุณหภูมิติดลบได้นานนับปี และอาจยังมีปัญหาสารเร่งเนื้อแดงที่เป็นอันตรายกับสุขภาพและผิดกฎหมายไทยที่มากับเนื้อหมูเถื่อนอีกด้วย
เพราะฉะนั้น ภาครัฐควรโฟกัสให้ถูกจุด ด้วยการเร่งปราบ “ขบวนการลักลอบนำาเข้าเนื้อหมู” ไม่ให้เข้ามาทำาลายชาติ ทำาลายอาชีพ
เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู และทำาลายสุชภาพของคนไทย./
สัตว์เศรษฐกิจ 5 5