Page 172 - ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์2564
P. 172
- ๑๗๒ - ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จัดกำรงำนของห้ำงหุ้นส่วนนั้นไม่ เว้นแต่จะได้มีควำมตกลงกันไว้เป็นอย่ำงอื่น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๑๐๔๗ ถ้ำชื่อของผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งออกจำกหุ้นส่วนไปแล้วยังคงใช้เรียกขำน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ติดเป็นชื่อห้ำงหุ้นส่วนอยู่ ท่ำนว่ำผู้เป็นหุ้นส่วนนั้นชอบที่จะเรียกให้งดใช้ชื่อของตนเสียได้
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๑๐๔๘ ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งจะเรียกเอำส่วนของตนจำกหุ้นส่วนอ่น ๆ
ื
แม้ในกิจกำรค้ำขำยอันใดซึ่งไม่ปรำกฏชื่อของตนก็ได้ ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ส่วนที่ ๓
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ควำมเกี่ยวพันระหว่ำงผู้เป็นหุ้นส่วนกับบุคคลภำยนอก
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
มำตรำ ๑๐๔๙ ผู้เป็นหุ้นส่วนจะถือเอำสิทธิใด ๆ แก่บุคคลภำยนอกในกิจกำร
ี
ี
ี
ค้ำขำยซึ่งไม่ปรำกฏชื่อของตนนั้นหำได้ไม่
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ั
มำตรำ ๑๐๕๐ กำรใด ๆ อนผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งได้จัดท ำไปในทำงที่เป็น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ธรรมดำกำรค้ำขำยของห้ำงหุ้นส่วนนั้น ท่ำนว่ำผู้เป็นหุ้นส่วนหมดทุกคนย่อมมีควำมผูกพนในกำรนั้น ๆ ด้วย
ั
และจะต้องรับผิดร่วมกันโดยไม่จ ำกัดจ ำนวนในกำรช ำระหนี้ อนได้ก่อให้เกิดขึ้นเพรำะจัดกำรไป
ั
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
เช่นนั้น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๑๐๕๑ ผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งออกจำกหุ้นส่วนไปแล้วยังคงต้องรับผิดในหนี้ซึ่งห้ำง
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
หุ้นส่วนได้ก่อให้เกิดขึ้นก่อนที่ตนได้ออกจำกหุ้นส่วนไป ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
มำตรำ ๑๐๕๒ บุคคลผู้เข้ำเป็นหุ้นส่วนในห้ำงหุ้นส่วนย่อมต้องรับผิดในหนี้ใด ๆ
ี
ี
ี
ซึ่งห้ำงหุ้นส่วนได้ก่อให้เกิดขึ้นก่อนที่ตนเข้ำมำเป็นหุ้นส่วนด้วย
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๑๐๕๓ ห้ำงหุ้นส่วนซึ่งมิได้จดทะเบียนนั้น ถึงแม้จะมีข้อจ ำกัดอำนำจของ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ื่
หุ้นส่วนคนหนึ่งในกำรที่จะผูกพนผู้เป็นหุ้นส่วนคนอน ๆ ท่ำนว่ำข้อจ ำกัดเช่นนั้นก็หำมีผลถึง
ั
บุคคลภำยนอกไม่ ี ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ีำ ๑๐๕๔ บุคคลใดแสดงตนว่ำเป็นหุ้นส่วนด้วยวำจำก็ดี ด้วยลำยลักษณ์อักษร
มำตร
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ก็ดี ด้วยกิริยำก็ดี ด้วยยินยอมให้เขำใช้ชื่อตนเป็นชื่อห้ ำงหุ้นส่วนก็ดี หรือรู้แล้วไม่คัดค้ำนปล่อยให้เขำ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
แสดงว่ำตนเป็นหุ้นส่วนก็ดี ท่ำนว่ำบุคคลนั้นย่อมต้องรับผิดต่อบุคคลภำยนอกในบรรดำหนี้ของห้ำง
ี
ี
หุ้นส่วนเสมือนเป็นหุ้นส่วน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ถ้ำผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดตำยไปแล้ว และห้ำงหุ้นส่วนนั้นยังคงค้ำต่อไปในชื่อ
ี
ี
ี
เดิมของห้ำง ท่ำนว่ำเหตุเพยงที่คงใช้ชื่อเดิมนั้นก็ดี หรือใช้ชื่อของหุ้นส่วนผู้ตำยควบอยู่ด้วยก็ดี หำท ำ
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ให้ควำมรับผิดมีแก่กองทรัพย์มรดกของผู้ตำยเพอหนี้ใด ๆ อนห้ำงหุ้นส่วนได้ก่อให้เกิดขึ้นภำยหลัง
ื่
ั
มรณะนั้นไม่
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี

