Page 173 - ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์2564

- ๑๗๓ - ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ส่วนที่ ๔
ี
ี
ี

กำรเลิกและช ำระบัญชีห้ำงหุ้นส่วนสำมัญ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ

ี

ี

ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๑๐๕๕ ห้ำงหุ้นส่วนสำมัญย่อมเลิกกันด้วยเหตุดังกล่ำวต่อไปนี้

(๑) ถ้ำในสัญญำท ำไว้มีก ำหนดกรณีอันใดเป็นเหตุที่จะเลิกกัน เมื่อมีกรณีนั้น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
(๒) ถ้ำสัญญำท ำไว้เฉพำะก ำหนดกำลใด เมื่อสิ้นก ำหนดกำลนั้น

ื่
(๓) ถ้ำสัญญำท ำไว้เฉพำะเพอท ำกิจกำรอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดแต่อย่ำงเดียว เมื่อเสร็จ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
กำรนั้น
(๔) เมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งให้ค ำบอกกล่ำวแก่ผู้เป็นหุ้นส่วนคนอน ๆ ตำม
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ื่
ี
ี
ก ำหนดดังบัญญัติไว้ในมำตรำ ๑๐๕๖
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
(๕) เมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งตำย หรือล้มละลำย หรือตกเป็นผู้ไร้ควำมสำมำรถ
ี
ี
ี

ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๑๐๕๖ ถ้ำห้ำงหุ้นส่วนได้ตั้งขึ้นไม่มีก ำหนดกำลอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดเป็นยุติ

ท่ำนว่ำจะเลิกได้ต่อเมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งบอกเลิกเมื่อสิ้นรอบปีในทำงบัญชีเงินของห้ำง
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
หุ้นส่วนนั้น และผู้เป็นหุ้นส่วนนั้นต้องบอกกล่ำวควำมจ ำนงจะเลิกล่วงหน้ำไม่น้อยกว่ำหกเดือน

ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๑๐๕๗ ถ้ำผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดร้องขอเมื่อมีกรณีอย่ำงใดอย่ำงหนึ่งดังจะ

กล่ำวต่อไปนี้ ศำลอำจสั่งให้ห้ำงหุ้นส่วนสำมัญเลิกกันเสียก็ได้ คือ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
(๑) เมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งน อกจำกผู้ร้องฟ้องนั้น ล่วงละเมิดบทบังคับใด ๆ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
อันเป็นข้อสำระส ำคัญซึ่งสัญญำหุ้นส่วนก ำหนดไว้แก่ตน โดยจงใจหรือเลินเล่ออย่ำงร้ำยแรง
ี
ี

(๒) เมื่อกิจกำรของห้ำงหุ้นส่วนนั้นจะท ำไปก็มีแต่ขำดทุนอย่ำงเดียว และไม่มีหวังจะ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
กลับฟื้นตัวได้อีก
ี
ี
ี

(๓) เมื่อมีเหตุอื่นใด ๆ ท ำให้ห้ำงหุ้นส่วนนั้นเหลือวิสัยที่จะด ำรงคงอยู่ต่อไปได้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี

มำตรำ ๑๐๕๘ เมื่อเหตุอันใดอนหนึ่งเกิดขึ้นเกี่ยวด้วยผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่ง ซึ่งตำม
ั
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ควำมในมำตรำ ๑๐๕๗ หรือมำตรำ ๑๐๖๗ เป็นเหตุให้ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลำยนอกนั้นมีสิทธิจะเรียกให้

เลิกห้ำงหุ้นส่วนได้ไซร้ ในเมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนเหล่ำนั้นยื่นค ำร้อง ท่ำนว่ำศำลจะสั่งให้ก ำจัดหุ้นส่วนผู้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ต้นเหตุคนนั้นออกเสียจำกห้ำงหุ้นส่วนแทนสั่งให้เลิกห้ำงหุ้นส่วนก็ได้

ีรแบ่งทรัพย์สินระหว่ำงห้ำงหุ้นส่วนกับผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งถูกก ำจัดนั้น ท่ำนให้ตี
ในกำ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
รำคำทรัพย์สินของห้ำงหุ้นส่วนตำมรำคำที่เป็นอยู่ในเวลำแรกยื่นค ำร้องขอให้ก ำจัด

ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ

ี
ี

มำตรำ ๑๐๕๙ ถ้ำเมื่อสิ้นก ำหนดกำลซึ่งได้ตกลงกันไว้ และผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลำย
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
หรือผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งเคยได้จัดกำรอยู่ในระหว่ำงก ำหนดนั้น ยังคงด ำเนินกำรค้ำของห้ำงหุ้นส่วนอยู่
ี
ี
ี

ต่อไปโดยมิได้ช ำระบัญชีหรือช ำระเงินกันให้เสร็จไปไซร้ ท่ำนให้ถือว่ำผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งปวงได้ตกลงคง
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ท ำกำรเป็นหุ้นส่วนกันสืบไปโดยไม่มีก ำหนดกำล ี

ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี