Page 176 - ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์2564
P. 176
- ๑๗๖ - ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๖๗ ถ้ำผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดกระท ำกำรฝ่ำฝืนต่อบทบัญญัติในมำตรำก่อน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
นี้ไซร้ ท่ำนว่ำห้ำงหุ้นส่วนซึ่งจดทะเบียนนั้นชอบที่จะเรียกเอำผลก ำไรอนผู้นั้นหำได้ทั้งหมดหรือเรียก
ั
ี
ี
ี
เอำค่ำสินไหมทดแทนเพื่อควำมเสียหำยซึ่งห้ำงหุ้นส่วนได้รับเพรำะเหตุนั้น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
แต่ทั้งนี้ท่ำนห้ำมมิให้ฟ้องเรียกเมื่อพ้นเวลำปีหนึ่งนับแต่วันท ำกำรฝ่ำฝืน
ี
ั
อนึ่ง บทบัญญัติมำตรำนี้ไม่ลบล้ำงสิทธิของผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลำยนอกนั้น ในอนจะ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
เรียกให้เลิกห้ำงหุ้นส่วน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๑๐๖๘ ควำมรับผิดของผู้เป็นหุ้นส่วนในห้ำงหุ้นส่วนจดทะเบียน อันเกี่ยวแก่
ี
หนี้ซึ่งห้ำงหุ้นส่วนได้ก่อให้เกิดขึ้นก่อนที่ตนออกจำกหุ้นส่วนนั้น ย่อมมีจ ำกัดเพยงสองปีนับแต่เมื่อออก
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
จำกหุ้นส่วน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๑๐๖๙ นอกจำกในกรณีทั้งหลำยที่บัญญัติไว้ในมำตรำ ๑๐๕๕ ท่ำนว่ำห้ำง
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
หุ้นส่วนจดทะเบียนย่อมเลิกกันเมื่อห้ำงหุ้นส่วนนั้นล้มละลำย
ี
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๑๐๗๐ เมื่อใดห้ำงหุ้นส่วนซึ่งจดทะเบียนผิดนัดช ำระหนี้ เมื่อนั้นเจ้ำหนี้ของ
ห้ำงหุ้นส่วนนั้นชอบที่จะเรียกให้ช ำระหนี้เอำแต่ผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งก็ได้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๑๐๗๑ ในกรณีที่กล่ำวไว้ในมำตรำ ๑๐๗๐ นั้น ถ้ำผู้เป็นหุ้นส่วนน ำพิสูจน์ได้ว่ำ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
(๑) สินทรัพย์ของห้ำงหุ้นส่วนยังมีพอที่จะช ำระหนี้ได้ทั้งหมดหรือบำงส่วน และ
(๒) กำรที่จะบังคับเอำแก่ห้ำงหุ้นส่วนนั้นไม่เป็นกำรยำกฉะนี้ไซร้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ศำลจะบังคับให้เอำสินทรัพย์ของห้ ำงหุ้นส่วนนั้นช ำระหนี้ก่อนก็ได้ สุดแต่ศำลจะ
เห็นสมควร ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
มำตรำ ๑๐๗๒ ถ้ำห้ำงหุ้นส่วนซึ่งจดทะเบียนยังมิได้เลิกกันตรำบใด เจ้ำหนี้ของผู้
ี
ี
ี
เป็นหุ้นส่วนเฉพำะตัวย่อมใช้สิทธิได้แต่เพยงในผลก ำไรหรือเงินซึ่งห้ำงหุ้นส่วนค้ำงช ำระแก่ผู้เป็น
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
หุ้นส่วนคนนั้นเท่ำนั้น ถ้ำห้ำงหุ้นส่วนนั้นเลิกกันแล้ว เจ้ำหนี้ย่อมใช้สิทธิได้ตลอดจนถึงหุ้นของผู้เป็น
หุ้นส่วนคนนั้นอันมีในสินทรัพย์ของห้ำงหุ้นส่วน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ส่วนที่ ๖
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
กำรควบห้ำงหุ้นส่วนจดทะเบียนเข้ำกัน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
มำตรำ ๑๐๗๓ ห้ำงหุ้นส่วนจดทะเบียนห้ำงหนึ่งจะควบเข้ำเป็นอนเดียวกับห้ำง
ั
ี
ี
ี
หุ้นส่วนจดทะเบียนอกห้ำงหนึ่งกได้ โดยควำมยินยอมของผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมด เว้นแต่จะได้ตกลงกน
ั
็
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ไว้เป็นอย่ำงอื่น
ี
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๑๐๗๔ เมื่อห้ำงหุ้นส่วนจดทะเบียนห้ำงใดปลงใจจะควบเข้ำกันกับห้ำงอน
ื่
ห้ำงหุ้นส่วนนั้นต้องโฆษณำในหนังสือพมพแห่งท้องที่นั้นสองครั้งเป็นอย่ำงน้อย และส่งค ำบอกกล่ำว
์
ิ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี

