Page 219 - ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์2564
P. 219
- ๒๑๙ - ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๔๓ ห้ำมมิให้ขุดดินหรือบรรทุกน้ ำหนักบนที่ดินเกินควรจนอำจเป็นเหตุ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
อันตรำยแก่ควำมอยู่มั่นแห่งที่ดินติดต่อ เว้นแต่จะจัดกำรเพียงพอเพื่อป้องกันควำมเสียหำย
ี
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
มำตรำ ๑๓๔๔ รั้ว ก ำแพง รั้วต้นไม้ คู ซึ่งหมำยเขตที่ดินนั้น ท่ำนให้สันนิษฐำนไว้
ี
ี
ก่อนว่ำเจ้ำของที่ดินทั้งสองข้ำงเป็นเจ้ำของรวมกัน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๑๓๔๕ เมื่อรั้วต้นไม หรือคูซึ่งมิได้ใช้เป็นทำงระบำยน้ ำ เป็นของเจ้ำของที่ดิน
้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ทั้งสองข้ำงรวมกัน ท่ำนว่ำเจ้ำของข้ำงใดข้ำงหนึ่งมีสิทธิที่จะตัดรั้วต้นไม้ หรือถมคูนั้นได้ถึงแนวเขต
ที่ดินของตน แต่ต้องก่อก ำแพง หรือท ำรั้วตำมแนวเขตนั้น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๑๓๔๖ ถ้ำมีต้นไม้อยู่บนแนวเขตที่ดิน ท่ำนให้สันนิษฐำนไว้ก่
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ว่ำเจ้ำของ
ีอน
ี
ที่ดินทั้งสองข้ำงเป็นเจ้ำของต้นไม้รวมกัน ดอกผลเป็นของเจ้ำของที่ดินคนละส่วนเสมอกัน และถ้ำตัด
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ต้นลงไซร้ ไม้นั้นเป็นของเจ้ำของที่ดินคนละส่วนดุจกัน
ี
ี
ี
เจ้ำของแต่ละฝ่ำยจะต้องกำรให้ขุดหรือตัดต้นไม้ก็ได้ ค่ำใช้จ่ำยในกำรนั้นต้องเสีย
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
เท่ำกันทั้งสองฝ่ำย แต่ถ้ำเจ้ำของอกฝ่ำยหนึ่งสละสิทธิในต้นไม้ไซร้ ฝ่ำยที่ต้องกำรขุดหรือตัดต้องเสีย
ื่
ค่ำใช้จ่ำยฝ่ำยเดียว ถ้ำต้นไม้นั้นเป็นหลักเขตและจะหำหลักเขตอนไม่เหมำะเหมือน ท่ำนว่ำฝ่ำยหนึ่ง
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ฝ่ำยใดจะต้องกำรให้ขุดหรือตัดไม่ได้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๑๓๔๗ เจ้ำของที่ดินอำจตัดรำกไม้ซึ่งรุกเข้ำมำจำกที่ดินติดต่อและเอำไว้เสีย
ถ้ำกิ่งไม้ยื่นล้ ำเข้ำมำ เมื่
ีอเจ้ำของที่ดินได้บอกผู้ครอบครองที่ดินติดต่อให้ตัดภำยในเวลำอันสมควรแล้ว
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
แต่ผู้นั้นไม่ตัด ท่ำนว่ำเจ้ำของที่ดินตัดเอำเสียได้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๑๓๔๘ ดอกผลแห่งต้นไม้ที่หล่นตำมธรรมดำลงในที่ดินติดต่อแปลงใด ท่ำน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ให้สันนิษฐำนไว้ก่อนว่ำเป็นดอกผลของที่ดินแปลงนั้น
ี
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๑๓๔๙ ที่ดินแปลงใดมีที่ดินแปลงอนล้อมอยู่จนไม่มีทำงออกถึงทำง
ื่
สำธำรณะได้ไซร้ ท่ำนว่ำเจ้ำของที่ดินแปลงนั้นจะผ่ำนที่ดินซึ่งล้อมอยู่ไปสู่ทำงสำธำรณะได้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ที่ดินแปลงใดมีทำงออกได้แต่เมื่อต้องข้ำมสระ บึง หรือทะเล หรือมีที่ชันอนระดับ
ั
ที่ดินกับทำงสำธำรณะสูงกว่ำกันมำกไซร้ ท่ำนว่ำให้ใช้ควำมในวรรคต้นบังคับ ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ที่และวิธีท ำทำงผ่ำนนั้นต้องเลือกให้พอควรแก่ควำมจ ำเป็นของผู้มีสิทธิจะผ่ำน กับ
ีมอยู่ให้เสียหำยแต่น้อยที่สุดที่จะเป็นได้ ถ้ำจ ำเป็นผู้มีสิทธิจะผ่ำนจะสร้ำงถนน
ทั้งให้ค ำนึงถึงที่ดินที่ล้อ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
เป็นทำงผ่ำนก็ได้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ั
ผู้มีสิทธิจะผ่ำนต้องใช้ค่ำทดแทนให้แก่เจ้ำของที่ดินที่ล้อมอยู่เพอควำมเสียหำยอน
ื่
ี
ี
เกิดแต่เหตุที่มีทำงผ่ำนนั้น ค่ำทดแทนนั้นนอกจำกค่ำเสียหำยเพรำะสร้ำงถนน ท่ำนว่ำจะก ำหนดเป็น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
เงินรำยปีก็ได้
ี
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี

