Page 214 - ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์2564
P. 214
- ๒๑๔ - ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ท ำไม่ได้โดยใช้เงินพอสมควรไซร้ ท่ำนว่ำเจ้ำของที่ดินจะเรียกให้ผู้สร้ำงซื้อที่ดินทั้งหมดหรือแต่บำงส่วน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ตำมรำคำตลำดก็ได้
ี
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
มำตรำ ๑๓๑๑ บุคคลใดสร้ำงโรงเรือนในที่ดินของผู้อนโดยไม่สุจริตไซร้ ท่ำนว่ำ
ี
ื่
ี
บุคคลนั้นต้องท ำที่ดินให้เป็นตำมเดิมแล้วส่งคืนเจ้ำของ เว้นแต่เจ้ำของจะเลือกให้ส่งคืนตำมที่เป็นอยู่
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ในกรณีเช่นนี้เจ้ำของที่ดินต้องใช้รำคำโรงเรือนหรือใช้ค่ำแห่งที่ดินเพยงที่เพมขึ้นเพรำะสร้ำงโรงเรือน
ี
ิ่
นั้นแล้วแต่จะเลือก ี ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
มำตรำ ๑๓๑๒ บุคคลใดสร้ำงโรงเรือนรุกล้ ำเข้ำไปในที่ดินของผู้อนโดยสุจริตไซร้
ื่
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ท่ำนว่ำบุคคลนั้นเป็นเจ้ำของโรงเรือนที่สร้ำงขึ้น แต่ต้ องเสียเงินให้แก่เจ้ำของที่ดินเป็นค่ำใช้ที่ดินนั้น
และจดทะเบียนสิทธิเป็นภำระจ ำยอม ต่อภำยหลังถ้ำโรงเรือนนั้นสลำยไปทั้งหมด เจ้ ีำของที่ดินจะ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
เรียกให้เพิกถอนกำรจดทะเบียนเสียก็ได้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ถ้ำบุคคลผู้สร้ำงโรงเรือนนั้นกระท ำกำรโดยไม่สุจริต ท่ำนว่ำเจ้ำของที่ดินจะเรียกให้
ี
ี
ี
ผู้สร้ำงรื้อถอนไป และท ำที่ดินให้เป็นตำมเดิมโดยผู้สร้ำงเป็นผู้ออกค่ำใช้จ่ำยก็ได้
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
มำตรำ ๑๓๑๓ ถ้ำผู้เป็นเจ้ำของที่ดินโดยมีเงื่อนไขสร้ำงโรงเรือนในที่ดินนั้น และ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ื่
ภำยหลังที่ดินตกเป็นของบุคคลอนตำมเงื่อนไขไซร้ ท่ำนให้น ำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมำยนี้ว่ำ
ด้วยลำภมิควรได้มำใช้บังคับ ี ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
มำตร
ีำ ๑๓๑๔ ท่ำนให้ใช้บทบัญญัติมำตรำ ๑๓๑๐, ๑๓๑๑ และ ๑๓๑๓ บังคับ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ตลอดถึงกำรก่อสร้ำงใด ๆ ซึ่งติดที่ดินและกำรเพำะปลูกต้นไม้หรือธัญชำติด้วยโดยอนุโลม
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
แต่ข้ำวหรือธัญชำติอย่ำงอนอนจะเก็บเกี่ยวรวงผลได้ครำวหนึ่งหรือหลำยครำวต่อปี
ื่
ั
ี
ี
เจ้ำของที่ดินต้องยอมให้บุคคลผู้กระท ำกำรโดยสุจริต หรือผู้เป็นเจ้ำของที่ดินโดยมีเงื่อนไขซึ่งได้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
เพำะปลูกลงไว้นั้น คงครองที่ดินจนกว่ำจะเสร็จกำรเก็บเกี่ยวโดยใช้เงินค ำนวณตำมเกณฑ์ค่ำเช่ำที่ดิน
ี
ี
ี
่
็
นั้น หรือเจ้ำของที่ดินจะเข้ำครอบครองในทันทีโดยใช้ค่ำทดแทนให้แกอีกฝ่ำยหนึ่งกได้
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
มำตรำ ๑๓๑๕ บุคคลใดสร้ำงโรงเรือน หรือท ำกำรก่อสร้ำงอย่ำงอื่นซึ่งติดที่ดิน หรือ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
เพำะปลูกต้นไม้หรือธัญชำติในที่ดินของตนด้วยสัมภำระของผู้อน ท่ำนว่ำบุคคลนั้นเป็นเจ้ำของ
ื่
สัมภำระ แต่ต้องใช้ค่ำสัมภำระ ี ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ีหลำยคนมำรวมเข้ำกันจนเป็นส่วน
มำตรำ ๑๓๑๖ ถ้ำเอำสังหำริมทรัพย์ของบุคคล
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ควบหรือแบ่งแยกไม่ได้ไซร้ ท่ำนว่ำบุคคลเหล่ำนั้นเป็น เจ้ำของรวมแห่งทรัพย์ที่รวมเข้ำกัน แต่ละคนมี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ส่วนตำมค่ำแห่งทรัพย์ของตนในเวลำที่รวมเข้ำกับทรัพย์อื่น ี
ี
ั
ถ้ำทรัพย์อนหนึ่งอำจถือได้ว่ำเป็นทรัพย์ประธำนไซร้ ท่ำนว่ำเจ้ำของทรัพย์นั้นเป็น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
เจ้ำของทรัพย์ที่รวมเข้ำกันแต่ผู้เดียว แต่ต้องใช้ค่ำแห่งทรัพย์อื่น ๆ ให้แก่เจ้ำของทรัพย์นั้น ๆ
ี
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี

