Page 298 - ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์2564
P. 298
- ๒๙๘ - ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำศำลเห็นเป็นกำรสมควร จะตั้งผู้ร้องนั้นเป็นผู้จัดกำรทรัพย์สินเสียเอง และเรียกให้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ผู้ร้องนั้นวำงประกันตำมที่สมควรก็ได้
ี
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ั
ี
ิ
ี
มำตรำ ๑๖๗๖ พนัยกรรมจะท ำขึ้นโดยให้บุคคลใดตกอยู่ในภำระติดพนที่จะต้อง
ื่
ก่อตั้งมูลนิธิ หรือจะสั่งจัดสรรทรัพย์สินไว้โดยตรง เพอประโยชน์อย่ำงใดอย่ำงหนึ่งตำมบทบัญญัติ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๑๑๐ แห่งประมวลกฎหมำยนี้ก็ได้
[เลขมำตรำ ๑๑๐ แกไขเพิ่มเติมโดยมำตรำ ๑๕ แห่งพระรำชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติ
้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
บรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ที่ได้ตรวจช ำระใหม่ พ.ศ. ๒๕๓๕]
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ิ
มำตรำ ๑๖๗๗ เมื่อมีพนัยกรรมก่อ ตั้งมูลนิธิขึ้นตำมมำตรำก่อน ให้เป็นหน้ำที่ของ
ทำยำทหรือผู้จัดกำรมรดก แล้วแต่กรณี ที่จะต้องร้องขอให้รัฐบำลให้อ ำนำจจัดตั้งขึ้นเป็นนิติบุคคลตำม
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๑๑๔ แห่งประมวลกฎหมำยนี้ เว้นแต่จะได้มีข้อก ำหนดไว้ในพินัยกรรมเป็นอย่ำงอื่น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ถ้ำบุคคลดังกล่ำวแล้วมิได้ร้องขอให้รัฐบำลให้อ ำนำจ บุคคลผู้มีส่วนได้เสียคนหนึ่งคน
ี
ี
ี
ใดหรือพนักงำนอัยกำรจะเป็นผู้ร้องขอก็ได้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
้
[เลขมำตรำ ๑๑๔ แกไขเพิ่มเติมโดยมำตรำ ๑๕ แห่งพระรำชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติ
บรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ที่ได้ตรวจช ำระใหม่ พ.ศ. ๒๕๓๕]
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๑๖๗๘ เมื่อมูลนิธิใดซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยพนัยกรรมได้ตั้งขึ้นเป็นนิติบุคคลแล้ว
ิ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ให้ถือว่ำทรัพย์สินซึ่งผู้ท ำพนัยกรรมจัดสรรไว้เพอกำรนั้น ตกเป็นของนิติบุคคลนั้นตั้งแต่เวลำซึ่ง
ิ
ื่
พินัยกรรมมีผล เว้นแต่จะมีข้อก ำหนดไว้ในพินัยกรรมเป็นอย่ำงอื่น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
มำตรำ ๑๖๗๙ ถ้ำจัดตั้งมูลนิธิขึ้นไม่ได้ตำมวัตถุที่ประสงค์ ให้ทรัพย์สินตกทอดไป
ี
ี
ตำมที่ระบุไว้ในพนัยกรรม
ิ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ั
ถ้ำพนัยกรรมไม่ได้ระบุไว้ เมื่อทำยำทหรือผู้จัดกำรมรดก หรือพนักงำนอยกำร หรือ
ิ
ี
ี
ี
ื่
บุคคลผู้มีส่วนได้เสียคนใดคนหนึ่งร้องขอ ให้ศำลจัดสรรทรัพย์สินนั้นให้แก่นิติบุคคลอนซึ่งปรำกฏว่ำมี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
วัตถุที่ประสงค์ใกล้ชิดที่สุดกับควำมประสงค์ของผู้ท ำพินัยกรรม ี
ถ้ำหำกว่ำจัดสรรทรัพย์สินอย่ำงนี้ไม่ได้ก็ดี หรือว่ำมูลนิธินั้นตั้งขึ้นไม่ได้ เพรำะเป็น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ั
กำรขัดต่อกฎหมำย หรือขัดต่อควำมสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอนดีของประชำชนก็ดี ข้อก ำหนด
พินัยกรรมในกำรจัดตั้งมูลนิธินั้นเป็นอันไร้ผล ี ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ีำ ๑๖๘๐ เจ้ำหนี้ของผู้ท ำพินัยกรรมมีสิทธิที่จะร้องขอให้เพิกถอนข้อก ำหนด
มำตร
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
พินัยกรรมซึ่งก่อตั้งมูลนิธินั้นได้เพียงเท่ำที่ตนต้องเสียประโยชน์เนื่องแต่กำรนั้น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๑๖๘๑ ถ้ำทรัพย์สินซึ่งเป็นวัตถุแห่งพนัยกรรมนั้นได้สูญหำย ท ำลำย หรือ
ิ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ื่
บุบสลำยไป และพฤติกำรณ์ทั้งนี้เป็นผลให้ได้ทรัพย์สินอนมำแทน หรือได้สิทธิเรียกร้องเอำค่ำสินไหม
ี
ี
ี
ทดแทนทรัพย์สินนั้น ผู้รับพนัยกรรมจะเรียกให้ส่งมอบของแทนซึ่งได้รับมำนั้น หรือจะเรียกร้องเอำค่ำ
ิ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
สินไหมทดแทนเสียเองก็ได้แล้วแต่กรณี ี ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี

