Page 299 - ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์2564
P. 299
- ๒๙๙ - ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ิ
มำตรำ ๑๖๘๒ เมื่อพนัยกรรมท ำขึ้นเป็นกำรปลดหนี้หรือโอนสิทธิเรียกร้อง
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ิ
พนัยกรรมนั้นมีผลเพยงจ ำนวนซึ่งคงค้ำงช ำระอยู่ในเวลำที่ผู้ท ำพนัยกรรมตำย เว้นแต่ผู้ท ำพนัยกรรม
ี
ิ
ิ
ี
ี
ี
จะได้ก ำหนดไว้เป็นอย่ำงอื่น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ั
ี
ถ้ำมีเอกสำรอนเป็นหลักฐำนแห่งหนี้ที่ปลดให้หรือสิทธิเรียกร้องที่โอนไปนั้น ก็ให้ส่ง
ี
มอบแก่ผู้รับพนัยกรรมและให้ใช้มำตรำ ๓๐๓ ถึง ๓๑๓, ๓๔๐ แห่งประมวลกฎหมำยนี้บังคับโดย
ิ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
อนุโลม แต่ถ้ำผู้ท ำพนัยกรรมจะต้องกระท ำกำรหรือด ำเนินกำรอย่ำงใดอย่ำงหนึ่งตำมมำตรำนั้น ๆ แล้ว
ิ
ิ
ิ
บุคคลผู้ต้องจัดกำรตำมพนัยกรรมหรือผู้รับพนัยกรรมจะกระท ำกำรหรือด ำเนินกำรนั้น ๆ แทนผู้ท ำ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
พินัยกรรมก็ได้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ิ
มำตรำ ๑๖๘๓ พนัยกรรมที่บุคคลท ำให้แก่เจ้ำหนี้คนใดของตนนั้น ให้สันนิษฐำนไว้
ก่อนว่ำ มิได้ท ำขึ้นเพื่อช ำระหนี้อันค้ำงช ำระแก่เจ้ำหนี้คนนั้น ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
มำตรำ ๑๖๘๔ เมื่อควำมข้อใดข้อหนึ่งในพินัยกรรมอำจตีควำมได้เป็นหลำยนัย
ี
ี
ี
ให้ถือเอำตำมนัยที่จะส ำเร็จผลตำมควำมประสงค์ของผู้ท ำพินัยกรรมนั้นได้ดีที่สุด
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๑๖๘๕ ในกรณีที่ผู้ท ำพินัยกรรมได้ก ำหนดผู้รับพินัยกรรมไว้โดยคุณสมบัติที่
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ทรำบตัวแน่นอนได้ ถ้ำมีบุคคลหลำยคนทรงไว้ซึ่งคุณสมบัติที่จะเป็นผู้รับพนัยกรรมตำมที่ผู้ท ำ
ิ
พินัยกรรมก ำหนดไว้ดังนั้นได้ ในกรณีที่มีข้อสงสัย ให้ถือว่ำทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับส่วนปันเท่ำ ๆ กัน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
หมวด ๔
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
พินัยกรรมที่ตั้งผู้ปกครองทรัพย์
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ั
้
มำตรำ ๑๖๘๖ อนว่ำทรัสต์นั้น จะก่อตั้งขึ้นโดยตรงหรือโดยทำงออมด้วย
๒๐๕
ี
ี
ี
พินัยกรรมหรือด้วยนิติกรรมใด ๆ ที่มีผลในระหว่ำงชีวิตก็ดีหรือเมื่อตำยแล้วก็ดี หำมีผลไม่ เว้นแต่โดย
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
อำศัยอ ำนำจตำมบทบัญญัติแห่งกฎหมำยเพื่อกำรก่อตั้งทรัสต์เท่ำนั้น ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๑๖๘๗ ถ้ำผู้ท ำพินัยกรรมประสงค์จะยกทรัพย์สินให้แก่ผู้เยำว์ หรือผู้ซึ่งศำล
ได้สั่งให้เป็นคนไร้ควำมสำมำรถ หรือเสมือนไร้ควำมสำมำรถ หรือแก่ผู้ซึ่งต้องรักษำตัวอยู่ใน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
โรงพยำบำลเพรำะเหตุวิกลจริต แต่ต้องกำรมอบกำรเก็บรักษำและจัดกำรทรัพย์สินนั้นแก่บุคคลอน
ื่
ีคลเช่นนั้น ผู้ท ำพินัยกรรมต้องตั้ง
ิ
นอกจำกบิดำมำรดำ ผู้ปกครอง ผู้อนุบำล หรือผู้พทักษ์ของบุค
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ผู้ปกครองทรัพย์ขึ้น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
กำรตั้งผู้ปกครองทรัพย์นี้ ห้ำมมิให้ตั้งขึ้นเป็นเวลำเกินกว่ำก ำหนดแห่งกำรเป็นผู้เยำว์
ี
ี
หรือก ำหนดที่ศำลได้สั่งให้เป็นคนไร้ควำมสำมำรถ หรือเสมือนไร้ควำมสำมำรถ หรือก ำหนดที่ต้อง
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
รักษำตัวอยู่ในโรงพยำบำล แล้วแต่กรณี
ี
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
๒๐๕ มำตรำ ๑๖๘๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ. ๒๕๕๐

