Page 301 - ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์2564
P. 301
- ๓๐๑ - ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ั
มำตรำ ๑๖๙๖ ถ้ำผู้ท ำพนัยกรรมได้โอนไปโดยสมบูรณ์ซึ่งทรัพย์สินอนเป็นวัตถุแห่ง
ิ
ี
ี
ี
ข้อก ำหนดพินัยกรรมใดด้วยควำมตั้งใจ ข้อก ำหนดพินัยกรรมนั้นเป็นอันเพิกถอนไป
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
วิธีเดียวกันนี้ให้ใช้บังคับ เมื่อผู้ท ำพินัยกรรมได้ท ำลำยทรัพย์สินนั้นด้วยควำมตั้งใจ
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ิ
มำตรำ ๑๖๙๗ ถ้ำผู้ท ำพนัยกรรมมิได้แสดงเจตนำไว้ในพินัยกรรมเป็นอย่ำงอน และ
ื่
ิ
ิ
ปรำกฏว่ำพนัยกรรมฉบับก่อนกับฉบับหลังขัดกัน ให้ถือว่ำพนัยกรรมฉบับก่อนเป็นอนเพกถอนโดย
ั
ิ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
พินัยกรรมฉบับหลัง เฉพำะในส่วนที่มีข้อควำมขัดกันนั้นเท่ำนั้น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๑๖๙๘ ข้อก ำหนดพินัยกรรมนั้น ย่อมตกไป
(๑) เมื่อผู้รับพินัยกรรมตำยก่อนผู้ท ำพินัยกรรม
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ิ
(๒) เมื่อข้อก ำหนดพนัยกรรมเป็นผลใช้ได้ต่อเมื่อเงื่อนไขอย่ำงใดอย่ำงหนึ่งส ำเร็จลง
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ิ
และผู้รับพนัยกรรมตำยเสียก่อนเงื่อนไขส ำเร็จ หรือปรำกฏเป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่ำเงื่อนไขนั้นไม่
ี
ี
ี
อำจจะส ำเร็จได้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
(๓) เมื่อผู้รับพินัยกรรมบอกสละพินัยกรรม
ิ
(๔) เมื่อทรัพย์สินทั้งหมดที่ยกให้สูญหำย หรือถูกทำลำยโดยผู้ท ำพนัยกรรมมิได้ตั้งใจ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ิ
ในระหว่ำงที่ผู้ท ำพนัยกรรมยังมีชีวิตอยู่ และผู้ท ำพนัยกรรมมิได้ได้มำซึ่งของแทน หรือซึ่งสิทธิที่จะ
ิ
เรียกค่ำทดแทนในกำรที่ทรัพย์สินนั้นสูญหำยไป ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ีพินัยกรรม เกี่ยวกับทรัพย์สินรำยใด
ิ
มำตรำ ๑๖๙๙ ถ้ำพนัยกรรม หรือข้อก ำหนดใน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
เป็นอันไร้ผลด้วยประกำรใด ๆ ทรัพย์สินรำยนั้นตกทอ ดแก่ทำยำทโดยธรรมหรือได้แก่แผ่นดิน แล้วแต่
กรณี ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
หมวด ๖
ี
ี
ี
ควำมเสียเปล่ำแห่งพินัยกรรมหรือ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ข้อก ำหนดพินัยกรรม
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๑๗๐๐ ภำยใต้บังคับแห่งบทบัญญัติในหมวดนี้ บุคคลจะจ ำหน่ำยทรัพย์สิน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ใด ๆ โดยนิติกรรมที่มีผลในระหว่ำงชีวิต หรือเมอตำยแล้ว โดยมีข้อก ำหนดห้ำมมิให้ผู้รับประโยชน์โอน
ื่
ทรัพย์สินนั้นก็ได้ แต่ต้องมีบุคคลใดบุคคลหนึ่งนอกจำกผู้รับประโย
ีชน์ก ำหนดไว้ ส ำหรับเป็นผู้จะได้รับ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ทรัพย์สินนั้นเป็นสิทธิเด็ดขำด ในเมื่อมีกำรละเมิดข้อก ำหนดห้ำมโอน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ผู้ซึ่งก ำหนดขึ้นดังกล่ำวนั้นต้องเป็นผู้สำมำรถจะมีสิทธิต่ำง ๆ ได้อยู่ในขณะที่กำร
ี
ี
จ ำหน่ำยทรัพย์สินนั้นมีผลบังคับ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ถ้ำมิได้ก ำหนดบุคคลที่จะเป็นผู้รับทรัพย์สินในเมื่อมีกำรละเมิดข้อก ำหนดห้ำมโอนไว้
ี
ี
ี
ให้ถือว่ำข้อก ำหนดห้ำมโอนนั้นเป็นอันไม่มีเลย
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๑๗๐๑ ข้อก ำหนดห้ำมโอนตำมมำตรำก่อนนั้นจะให้มีก ำหนดเวลำหรือ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี

