Page 30 - 02 รายงานวิชาการจังหวัดกระบี่2564
P. 30

- 8 -


               ส่วนการเลื่อนไถลบนระนาบเรียบ (planar rupture surface) มวลวัสดุมักจะเคลื่อนที่บนระนาบที่
               ค่อนข้างขนานกับความลาดชัน หรือตามระนาบรอยแตก และทิศทางการวางตัวของชั้นหิน
                           4) การแผ่ออกด้านข้าง (lateral spread) เป็นลักษณะการแตกและยืดออกด้านข้างของ
               ชั้นหิน (coherent rocks) หรือชั้นดินที่มีความเชื่อมแน่น (cohesive soils) เนื่องจากแรงดึง

               (tension) หรือแรงเฉือน (shear) ส่วนใหญ่มักเกิดสัมพันธ์กับแผ่นดินไหว และปรากฏการณ์ดินไหล
               (liquefaction) บนพื้นราบหรือพื้นที่ที่มีความลาดชันน้อย หรือเกิดจากการที่มีหินหรือดินที่แข็ง
               และไม่อุ้มน้ำวางตัวทับอยู่บนชั้นดินที่อุ้มน้ำ เมื่อชั้นดินที่อุ้มน้ำถูกทับด้วยน้ำหนักที่มากก็จะไหลออก
               ด้านข้าง ทำให้ชั้นดิน ชั้นหินที่อยู่ด้านบนแตกออกและยุบตัว

                           5) การไหล (flows) เป็นการเคลื่อนที่ในลักษณะคล้ายของไหล (flow-like movement)
               ของวัสดุแห้งหรือวัสดุที่อิ่มตัวไปด้วยน้ำลงมาตามความลาดชันและแรงโน้มถ่วงของโลก สามารถแบ่ง
               ออกเป็นชนิดต่าง ๆ ดังนี้
                           ก) หินไหล (rock flow: deep creep) หรือ หินถล่ม (rock avalanche) เป็นการไหล

               อย่างรวดเร็วที่สุด (extremely rapid) ของเศษหิน (fragmented rocks) จากกองหินที่เลื่อนไถล
               (rock slide) หรือถล่ม (rock fall) มาก่อนหน้า
                           ข) เศษวัสดุธรณีไหล (debris flow) เป็นการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วมาก (very rapid)
               ของเศษหินและตะกอนดินที่อิ่มตัวไปด้วยน้ำบนเส้นทางการไหลที่มีอยู่เดิม (established paths) เช่น
               ร่องธาร (gullies) และร่องน้ำลำดับที่หนึ่งหรือสอง (first-or second-order drainage channels)

               ปกติการไหลของเศษดินหินมักจะมาจากดินถล่มประเภทอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นบนทางลาดชัน โดยมีน้ำเป็น
               ตัวกลางพัดพาเอาเศษหินและตะกอนดินไหลรวมถึงซากต้นไม้ก่อนที่จะไหลลงมากองทับถมบริเวณที่
               ราบเชิงเขาในลักษณะของเนินตะกอนรูปพัดหน้าหุบเขา
                           ค) การถล่มของเศษวัสดุธรณี (debris avalanche) เป็นการไหลอย่างรวดเร็วมากถึง

               มากที่สุด (very rapid to extremely rapid) ของเศษหินและตะกอนดินที่มีความชื้นหรืออิ่มตัวไป
               ด้วยน้ำ (partially or fully saturated debris) สามารถพบได้ทั่วไปบนพื้นที่ที่มีความลาดชันสูง
                           ง) ดินไหล (earth flow) เป็นการเคลื่อนที่ของชั้นดินหรือชั้นหินที่มีตะกอนขนาด
               ละเอียดหรืออนุภาคของดินเหนียวเป็นองค์ประกอบหลัก (fine-grained materials or clay-bearing
               rocks) มักเกิดบนพื้นที่ที่มีความลาดชันไม่สูงนัก (moderate slopes) โดยอัตราความเร็วในการไหล

               จะแปรผันตรงกับปริมาณความชื้นในดิน
                           จ )  โคลนไหล (mud flow) หรือ ดินไหลแบบเร็วมาก (rapid earth flow)
               เป็นการไหลอย่างรวดเร็วมากถึงมากที่สุด (very rapid to extremely rapid) ของตะกอนดินที่
               ประกอบไปด้วยอนุภาคของทราย, ทรายแป้ง และดินเหนียว ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 และมีค่าความชื้น

               ในสถานภาพพลาสติกของดิน (plastic index) > ร้อยละ 5
                           ฉ) การคืบตัว (creep) เป็นการคืบหรือไหลคลานอย่างช้า ๆ ด้วยอัตราความเร็วคงที่ ไป
               ตามการเอียงเทของชั้นดินหรือหิน สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ การคืบตามฤดูกาล
               (seasonal creep) การคืบอย่างต่อเนื่อง (continuous creep) และการคืบแบบเร่ง (progressive
               creep)
   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35