Page 312 - E-book การประชุมวิชาการครั้งที่ 36
P. 312

คลอดเมื่อไหร่ด: เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า เมื่อมีหลักฐานว่าทารกอยู่ในครรภ์ด้วยความยากลำบาก
                                       ี
                  ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่อันตราย และปอดสมบูรณ์พอที่จะอยู่ในโลกภายนอกได้อย่างไม่ลำบาก ก็สมควรให้

                  คลอด อย่างไรก็ตามในรายที่ปอดสมบูรณ์แล้ว (มากกว่า 37 สัปดาห์) ทารกที่สงสัยโตช้า แต่ยังไม่มีท่าทีทกข์ร้อน
                                                                                                          ุ
                  การไหลเวียนเลือดยังไม่บกพร่อง (reassuring fetal well-being) สามารถเลือกที่ให้คลอด หรือติดตามอย่าง

                                                                                                              (35)
                  ใกล้ชิดด้วยความระมัดระวัง ก็สามารถให้ผลลัพธ์การตั้งครรภ์ที่พอ ๆ กัน ทั้งในระยะคลอด หลังคลอดใหม่ ๆ
                  หรือในระยะยาว  National Institute of Child Health and Human Development, the Society for
                                    (36)
                                                                                                      (37)
                  Maternal-Fetal Medicine, and the American College of Obstetricians and Gynecologists  แนะนำ
                  ว่าในกรณีที่เป็น FGR เดี่ยว ๆ ที่ไม่มีปัญหาอื่น ๆ และสุขภาพทารกดี ให้คลอดที่อายุครรภ์ 38 -39  สัปดาห์
                                                                                                       6/7
                                                                                                  0/7
                                                                                                           ิ
                                                                                                        ื
                                                         ี
                  และกรณีที่มีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเติมต่อผลลัพธ์ที่ไม่ด เช่น น้ำคร่ำน้อย Doppler ของหลอดเลือดแดงสายสะดอผดปกต  ิ
                                                                                                              ่
                  มีความเสี่ยงอื่นในมารดา 2) ให้คลอดที่ 34 -37  สัปดาห์ ส่วนกรณีที่คาดว่าจะคลอดก่อน 34 สัปดาห์ (เชน
                                                       0/7
                                                            6/7
                  Doppler ผิดปกติ และการทดสอบ BPP บ่งชี้ไม่ด เป็นต้น) ควรวางแผนให้คลอดในศูนย์ที่มีความพร้อมของ
                                                             ี
                  ทารกแรกคลอด และถ้าเป็นไปได้ให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ (MFM
                  specialist) การตัดสินใจยากคือรายที่อายุครรภ์น้อย โดยเฉพาะก่อน 32 สัปดาห์ (ซึ่งศักยภาพในการเลี้ยงทารก
                  ดังกล่าวก็แตกต่างกันไประหว่างสถาบัน) แต่โดยทั่วไปแล้วมีอัตราการตายสูง ระหว่าง 26-29 สัปดาห์ มีอัตราการ
                                                (20)
                  รอดเพิ่มขึ้นสัปดาห์ละร้อยละ 1-2  ปัจจัยที่บอกว่าถ้าเป็นไปได้ควรให้คลอดเลย ได้แก่ ductus venosus
                  Doppler ผิดปกต หรือการมี UA-AEDV และ UA-REDV ในกรณีที่อายุครรภ์มากกว่า 34 หรือ 32 สัปดาห์
                                 ิ
                  ตามลำดับ ควรให้คลอด ในรายที่ยอมรับการตรวจติดตามหลัง 36 สัปดาห์ ควรให้คลอดช่วง 37-38 สัปดาห์

                  หลัง 40 สัปดาห์ไปแล้วอัตราการเสียชีวิตจะสูงขึ้นชดเจน สำหรับกรณีปากมดลูกไม่พร้อม ไม่ควรเป็นเหตผลในการ
                                                            ั
                                                                                                        ุ
                  ไม่ชักนำคลอด สามารถทำปากมดลูกให้สุกได้ด้วยพรอสตาแกลนดิน หรือวิธีบอลลูน เป็นต้น


                  แนวทางการดูแลรักษา (1, 2, 7, 37, 38)

                  • การป้องกัน แนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือรักษาปัจจัยเสี่ยง เช่น ควบคุมความดันโลหิตสูง เป็นต้น สำหรับการใช้ยา

                                                                                                  (39)
                     ป้องกัน เช่น sildelnafil (เพิ่มการไหลเวียนที่รก) มีส่วนช่วยเพิ่มน้ำหนักทารกในรายที่รกเสื่อม  แต่ยังต้องการ
                     การศึกษาเพิ่มเติม

                  • แนะนำให้ตรวจอัลตราซาวด์ขั้นละเอียดสูง โดยเฉพาะในราย early-onset

                  • แนะนำให้ตรวจโครโมโซม รวมถึง CMA (chromosomal microarray) ในรายที่ทารกพิการ น้ำคร่ำมาก โดยไม่

                                                                ิ
                     คำนึงอายุครรภ์ หรือ early-onset (แม้ไม่พบความผดปกติอื่น) ในกรณีที่ตรวจโครโมโซมปกติ การตรวจ CMA
                     ทำให้ทราบสาเหตุเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 6

                  • การติดเชื้อ TORCH ไม่แนะนำให้ตรวจเป็นกิจวัตร แต่อาจทำในรายเสี่ยงสูง เช่น มีมาร์คเกอร์ทางอัลตราซาวด  ์

                     เป็นต้น ในรายที่ตรวจหา แนะนำให้ตรวจ PCR สำหรับ CMV จากการเจาะน้ำคร่ำ




                  Update in Fetal Growth Restriction                                                        296
   307   308   309   310   311   312   313   314   315   316   317