Page 313 - E-book การประชุมวิชาการครั้งที่ 36
P. 313
• UA-Doppler ทุกสัปดาห์ถ้ามี EDV ลดลง (PI > 95 เปอร์เซ็นไทล์) หรือเป็นรุนแรง (EFW <เปอร์เซ็นไทล์ที่ 3)
• UA-Doppler 2-3 ครั้ง/สัปดาห์ ในราย AEDV
• ในราย REDV ให้รับไว้ในโรงพยาบาล ตรวจ CTG วันละอย่างน้อย 1-2 ครั้ง
• FGR ที่ไม่มี AEDV/REDV ให้ตรวจ CTG สัปดาห์ละครั้ง (ระยะที่เลี้ยงรอดแล้ว)
+6
+6
• ให้สเตียรอยด์เร่งปอดในรายที่คาดว่าจะคลอดก่อน 33 สัปดาห์ หรือรายที่อายุครรภ์ 34-36 ที่คาดว่าจะ
คลอดใน 7 วัน โดยไม่มีข้อบ่งห้าม และไม่ได้รับสเตียรอยด์มาก่อน
• รายที่คลอดก่อน 32 สัปดาห์ พิจารณาให้ magnesium sulfate ในระยะคลอดสำหรับ neuroprotection
• อายุครรภ์ที่พิจารณาให้คลอดในกรณีที่ CTG (cardiotocography) ปกต ิ
▪ UA-Doppler ปกต: 38-39 สัปดาห์
ิ
ิ
▪ UA-Doppler ปกต แต่ FGR รุนแรง (<เปอร์เซ็นไทล์ที่ 3): 37 สัปดาห์
▪ UA-Doppler มีค่า (PI >เปอเซ็นไทล์ที่ 95): 37 สัปดาห์
▪ UA-AEDV: 33-34 สัปดาห์
▪ UA-REDV: 30-32 สัปดาห์
▪ FGR ที่วินิจฉัยก่อน 24-25 สัปดาห์ ให้พิจารณาเป็นราย ๆ ไป (เช่น ให้ทางเลือกยุติการตั้งครรภ์)
บางองค์กรแนะนำเพิ่มรายละเอียดปลีกย่อยเช่น ISUOG (7, 21) แนะนำให้ตรวจ DV-Doppler / computerized
CTG (short term variations: STV) ในรายที่มี AEDV/REDV (แตกต่างกันในวิธี surveillance) และให้คลอด
ถ้ามีหลักฐานว่าทารกอยู่ในขีดอันตราย เช่น late deceleration หรือ absent / reversed DV a-wave หรือ
BPP คะแนนตำกว่า 6 เป็นต้น
่
• ในรายที่มารดามีปัญหามาก อาจมีความจำเป็นต้องให้ยุติการตั้งครรภ์ด้วยข้อบ่งชี้ทางมารดา เช่น โรคครรภ์
เป็นพิษชนิดรุนแรง (severe preeclampsia) เป็นต้น
• ระยะคลอด: ติดตามสุขภาพทารกระยะคลอดแบบต่อเนื่อง แจ้ง/ปรึกษากุมารแพทย์ทารกแรกคลอด
• วิธีการคลอดโดยทั่วไปแล้วให้คลอดตามปกติ ผ่าตัดเมื่อมีข้อบ่งชี้เช่น fetal distress ถ้ามีเพียงปัญหา FGR
ไม่ควรถือเป็นข้อบ่งชี้ในการผ่าตัดคลอด
ระยะหลังคลอด
มีความเตรียมพร้อมสำหรับช่วยแก้ไขและป้องกันภาวะแทรกซ้อนมาตั้งแต่ก่อนคลอด ทันทีที่คลอดในรายท ี่
น้ำคร่ำมีขี้เทาปนต้องดูดออกจากช่องจมูกและ oropharynx ให้มากที่สุดก่อนคลอดลำตัว ร่วมกับการทำ tracheal
suction ทาง endotracheal tube หรือป้องกันและลดความรุนแรงของภาวะ meconium aspiration
Update in Fetal Growth Restriction 297

