Page 15 - วารสารโรงพยาบาลสุรินทร์#12
P. 15

ต่อจ�กหน้� 6
              บันไดขั้นที่ 3 ทำาวันนี้ให้ดีที่สุด คือการอยู่กับปัจจุบัน ทำา  เลือดหรือสารคัดหลั่งของผู้ที่ติดเชื้อผ่านทางบาดแผลบนผิวหนัง
       กิจกรรมในวันนี้และเวลานี้ให้ดีที่สุด ทำาได้แค่ไหนเอาแค่นั้น ไม่ทุกข์  การใช้ของใช้ส่วนตัวที่ปนเปื้อนกับเลือดหรือสารคัดหลั่ง การมีเพศ
       ร้อน  หรือคาดหวังกับผลลัพธ์ของมัน  ไม่ว่าจะสมใจ  หรือไม่สมใจ  สัมพันธ์โดยไม่ได้สวมถุงยางอนามัย การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน และ
       ก็ตาม จงชื่นชมในความตั้งใจ ทำาเต็มความสามารถของตนเอง และ  จากมารดาสู่ทารกโดยการสัมผัสกับเลือดและสารคัดหลั่งที่มีเชื้อ
       คิดต่อว่า ในอนาคตจะต้องทำาให้ดีกว่านี้ นอกจากนั้น คุณต้องเลิก  ไวรัสในขณะคลอด การติดเชื้ออาจทำาให้เกิดโรคที่มีอาการรุนแรง
                                                          ำ
       จดจำา  หรือนึกถึงเรื่องที่ไม่ดีที่เกิดกับคุณในอดีต  เพราะการจดจา  ตัวเหลืองตาเหลือง เบื่ออาหาร ท้องเสีย คลื่นไส้อาเจียน เหนื่อย
       เรื่องราวที่ไม่ดีในอดีต  เท่ากับคุณไปสะกิดแผลในใจ  และจะทำาให้  ง่าย ปวดเมื่อยตามตัว หากร่างกายไม่สามารถกำาจัดเชื้อได้ จะ
       คุณเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น  จนส่งผลให้ปัจจุบันคุณไม่มีความสุข  และ  กลายเป็นพาหะของโรค ซึ่งนอกจากจะแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้แล้ว ยัง
       กลัวว่าอนาคตจะเกิดสิ่งที่ไม่ดีซ้ำาๆ อีก                 จะมีโอกาสเกิดโรคตับแข็งและมะเร็งตับต่อไปได้ในอนาคต
              บันไดขั้นที่ 4 มีความหวังและเชื่อว่าอนาคตจะดีเสมอ  จากการรายงานของสำานักระบาดวิทยาในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาพบ
       ความหวัง ความเชื่อ เกิดจากความคิดถึงบ่อยๆ หรือได้ยินบ่อยๆ จง  ว่า ประเทศไทยมีอัตราป่วยเฉลี่ยของโรคไวรัสตับอักเสบบีเท่ากับ
       นึกและบอกกับตัวเองเสมอว่า อนาคตจะดีขึ้นอีกเรื่อยๆ จะส่งผลให้  9 ต่อแสนประชากร อัตราตาย 0.01 ต่อแสนประชากร นอกจาก
       เกิดกำาลังใจมากขึ้น อยากพบเห็นสิ่งต่างๆ ที่จะเข้ามาในชีวิตโดยไม่  นี้ยังพบผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังร้อยละ 5 ของประชากร
       กลัว มีอารมณ์ขัน และไม่จริงจังกับชีวิตมากนัก แต่จะมีความหวัง  ส่วนโรคไวรัสตับอักเสบซี พบมีอัตราป่วยเฉลี่ยเท่ากับ 1.8 ต่อแสน
       ที่ดีๆ (Good Hope) อยู่เสมอ แต่อย่ามีความคาดหวัง (Expecta-  ประชากร อัตราตาย 0.01 ต่อแสนประชากร อีกทั้งภาคอีสาน
       tion) กับชีวิต เพราะถ้าคาดหวังกับชีวิต เรามักจะกลัว หรือกังวล  ยังขึ้นชื่อเป็นอันดับต้นๆอีกด้วย ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์และ
       ว่าจะไม่ได้ผลลัพธ์ดังความคาดหวัง หรือเมื่อได้มาแล้วก็มักไม่พอใจ   สาธารณสุขอย่างเราๆท่านๆก็เป็นประชาชนกลุ่มหนึ่งที่มีโอกาส
       จึงอาจทำาให้เกิดทุกข์ได้                                เสี่ยงต่อการเกิดโรคดังกล่าว เนื่องจากต้องปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง
              บันไดขั้นที่ 5 ปรับปรุงตัวเองเสมอ โดยปรับปรุง 4 ส่วนที่  กับการสัมผัสเลือดและสารคัดหลั่งจากผู้ป่วยเป็นประจำา แต่ไม่
       มีความสำาคัญต่อชีวิต คือ                                ต้องกังกลจนทำาให้เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานในโรงพยาบาล
         1. การงาน ให้มีความขยัน อดทน หมั่นหาความรู้ใส่ตัว และกล้า  นะคะ เราสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ง่ายๆด้วยการฉีดวัคซีน
       ลงมือปฏิบัติในสิ่งที่ควรทำา  จะทำาให้มีการลงมือทำาสิ่งใหม่ๆ  ในชีวิต  ป้องกันไวรัสตับอักเสบบี การให้วัคซีนภายใต้ EPI ( Expanded
       ได้เรื่อยๆ และปรากฏเป็นผลงานที่ชัดเจน                   Program on Immunization) ซึ่งดำาเนินการโดยกรมควบคุมโรค
         2. ครอบครัว จะต้องยึดหลักที่เป็นมงคลต่อกันคือ ไม่อิจฉา ไม่  กระทรวงสาธารณสุข ปัจจุบันมีวัคซีนพื้นฐานที่อยู่ใน EPI จำานวน
       ระแวง ไม่แข่งขัน ไม่นอกใจ รู้จักการให้และการอภัย มีน้ำาใจ และ  8 ชนิด ที่ป้องกันโรคจำานวน 10 โรค ได้แก่ วัณโรค คอตีบ ไอ
       รู้จักเกรงใจกัน                                         กรน บาดทะยัก โปลิโอ หัด หัดเยอรมัน คางทูม ตับอักเสบบี และ
         3. สังคม หมั่นสร้างมิตรเสมอ มีการให้ความสำาคัญกัน ให้ความ  ไข้สมองอักเสบเจอี ซึ่งเริ่มให้ตั้งแต่แรกเกิด แต่จากการเฝ้าระวัง
       ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และพูดจากันแบบปิยะวาจา           อุบัติเหตุสัมผัสเลือดและสารคัดหลั่งโรงพยาบาลสุรินทร์พบว่า
                            4.  ตนเอง  ต้องมีการพัฒนาตนเองเสมอ   บุคลากรส่วนใหญ่ไม่มีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสไวรัสตับอักเสบบี
                        มีความภูมิใจตนเองตามความเป็นจริง       ทำาไม ? เราควรฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี จากการใช้
                        สามารถให้กำาลังใจตัวเองได้และมีกำาลังใจที่  วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี พบว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกัน
                        พร้อมจะเปลี่ยนแปลงตนเองไปในทางที่ดีขึ้น  โรคมากถึงร้อยละ 95 และจัดเป็นวัคซีนตัวแรกที่สามารถป้องกัน
                                                               โรคมะเร็งได้ วัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบีจะฉีดเข้ากล้าม
                                        พรรณนิภ� พรอมตตระกูล   เนื้อโดยห่างจากเข็มแรก 1 เดือน และ 6 เดือน เมื่อฉีดวัคซีน
                                       นักจิตวิทยาคลินิกชำานาญการ  ป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบีครบ 3 เข็มแล้ว ควรตรวจวัดระดับภูมิ
                                  งานจิตวิทยาคลินิก  กลุ่มงานจิตเวช
                                                               ต้านทาน anti-HBs ภายใน 1-3 เดือน ถ้ามีระดับภูมิต้านทานต่อ
                                                               ไวรัสตับอักเสบบี หรือ anti-HBs มากกว่า 10 IU/L (internation-
                                                               al units per liter) ถือว่าป้องกันได้ มีผลการศึกษาพบว่าไม่จำาเป็น
                                 วัคซีนป้องกัน                 ต้องฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีซ้ำาอีก ถ้าร่างกายเคยสร้าง


                         ไวรัสตับอักเสบ บี                     ภูมิต้านทาน anti-HBs ขึ้นมาแล้ว ภูมิต้านทานนี้สามารถป้องกัน
                                                               เชื้อไวรัสตับอักเสบบีได้ตลอดชีวิต ดังนั้นหากมีใครนำาวัคซีนมาให้
                                                               ฉีดเพื่อการป้องกันหรือหลังสัมผัสเลือดและสารคัดหลั่งจากการ
                          โดย งานป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ   ปฏิบัติงาน อย่าปฏิเสธเชียวนะ ของเค้าดีจริงๆ สำาหรับช่วงนี้ โรง

                                                               พยาบาลสุรินทร์ได้มีการรณรงค์ให้บุคลากรกลุ่มเสี่ยงเข้ารับการฉีด
                   จากกระแสข่าวของวงการนักร้องลูกทุ่งที่มีการเสีย  วัคซีนเข็มที่ 3 แล้ว กรุณามารับการฉีดวัคซีนให้ครบด้วยนะคะ
       ชีวิตจากโรคมะเร็งตับในอดีตที่ผ่านมา เริ่มสร้างความกังวลให้กับ  ขอบคุณค่ะ
       วงการลูกทุ่งอีกครั้งด้วยอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งของนักร้องลูกทุ่ง
       ชื่อดังในขณะนี้ เกี่ยวข้องอย่างไรกับหัวข้อเรื่องฉบับนี้ ก่อนอื่นมา
       ทำาความรู้จักกับโรคไวรัสตับอักเสบบีกันก่อน  โรคไวรัสตับอักเสบบี     สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซด์สำานักโรคติดต่อ สำานัก
       เป็นภาวะที่มีการอักเสบของเซลล์ตับถูกทำาลาย ทำาให้ตับทำาหน้าที่  ระบาดวิทยา และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
       ผิดปกติไป เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี โดยการสัมผัสกับ

                                                           13
   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20