Page 45 - วิจัยการใช้ประโยชน์ไม้สะเดา
P. 45
ี้
ั้
ุ
ึ
ื่
งานวิจัยในครงนจึงส าคัญมาก เพราะการศกษาเพอทราบอายความทนทานตาม
ื่
ุ
ื
ั
ธรรมชาติของไม้และการวิจัยพฒนาเพอยดอายความทนทานของไม้ รวมทั้งการพฒนาคุณภาพไม้เป็น
ั
้
ื้
ความรพนฐานที่ส าคัญยงในการเลือกใชไม้ที่มีอายความทนทานที่เหมาะสมกับการใชประโยชนด้าน
ู้
้
ุ
์
ิ่
ื
ุ
้
ิ่
ต่างๆ เพื่อป้องกันรักษาเนื้อไม้จากศัตรูท าลายไม้ และเพื่อยดอายการใชงานของไม้ให้ยาวนานยงขึ้น ซึ่ง
้
้
ิ
่
จะน าไปสู่การลดปรมาณความตองการใชไม้ การนาเข้าไม้จากตางประเทศเป็นจ านวนมาก ลดปัญหา
ั
ุ
การลักลอบตัดไม้ท าลายป่าของประเทศในระยะยาว และยังเป็นการสนบสนนให้ประชาชนในประเทศใช ้
ี
ไม้อย่างมีคุณภาพและคุ้มค่าอีกด้วย ส่วนการพัฒนาคุณภาพของไม้โดยใชเทคโนโลยและกรรมวิธีตางๆ
่
้
ื่
ซึ่งเหมาะส าหรบภาคอุตสาหกรรม ก็จะนาไปสู่การพฒนาเพอการส่งออกไม้ ประดิษฐกรรมและบรรจุ
ั
ั
ภัณฑ์ไม้ เพื่อให้ได้ไม้ใช้ประโยชน์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับของตลาดสากล
ั
ึ
่
อยางไรก็ตาม จากการศกษาและประสบการณ์ของนกวิจัยในด้านความทนทานไม้
้
่
พบว่า การศึกษาความทนทานตามธรรมชาติของไม้มีการใชขนาดไม้ทดลองที่ตางกัน ซึ่งในประเทศไทย
ึ
่
ิ
ั้
ได้มีการศกษาในเรองความทนทานตามธรรมชาตของไม้มาตงแตปี พ.ศ. 2497 เรอยมาจนถึงปัจจุบัน
ื่
ื่
โดยใช้ไม้ทดลองที่แตกต่างกัน 2 ขนาด คือ 5x5x50 ซม. และ 2.5x5x50 ซม. ซึ่งทั้งสองขนาดนไม่ได้มี
ี้
้
ี้
การระบุไว้แน่ชัดว่าน ามาตรฐานของประเทศใดหรอแหล่งใดมาใชอ้างอิง ซึ่งในอนาคตอันใกล้นประเทศ
ื
ิ
ิ
ึ
ในกลุ่มอาเซียนก าลังด าเนนการจัดท ามาตรฐานการศกษาความทนทานตามธรรมชาตของไม้ของ
ี
ั
ั้
้
ื่
ประเทศในกลุ่มอาเซียน ดังนน ประเทศไทยจึงควรเตรยมความพรอมเพอให้ข้อมูลรองรบในการจัดท า
มาตรฐานในครั้งนโดยด่วนที่สุด
ี้
นอกจากนปัญหาที่ส าคัญยิ่งอีกอย่างหนึ่งคือ การศึกษาความทนทานตามธรรมชาตของ
ี้
ิ
ไม้และความทนทานของไม้อาบนายาในแปลงทดลองกลางแจ้งภาคสนามในสถานการณ์จรง หรอ
้
ื
ิ
ื่
Graveyard Test นั้น เป็นการศึกษาที่ต้องใช้เวลานานมาก และไม่อาจระบุระยะเวลาสินสุดได้ เนองจาก
้
ไม้แตละชนดมีอายความทนทานไม่เท่ากัน และเราไม่อาจทราบได้ว่าไม้แตละชนดมีอายความทนทาน
ุ
่
่
ิ
ุ
ิ
่
่
เท่าไร และจะสิ้นสุดอายุลงเมื่อใด การเก็บข้อมูลจึงต้องท าทุกปี อยางตอเนอง ดังนน หากมีการพฒนา
ั
ั้
ื่
แนวทางการศึกษาความทนทานตามธรรมชาติโดยการพัฒนาแบบจ าลอง (Model) ที่สามารถเลียนแบบ
ั
่
ึ
้
ิ
ึ
การศกษาความทนทานตามธรรมชาตได้อยางใกล้เคียงที่สุดและสามารถยอมรบและใชผลการศกษา
่
ั้
จากแบบจ าลองนนได้ ก็จะยนระยะเวลาจากภาคสนามได้มาก และผลการทดลองสามารถเชอถือได้
ื่
่
่
ิ
ี
มากกว่าผลการทดลองในห้องปฏิบัตการแตเพยงอยางเดียว อันจะเป็นนวัตกรรมและองค์ความรที่
ู้
ั
ื่
ส าคัญที่จะสนบสนนข้อมูลในเรองความทนทานและอายการใชงานของไม้ รวมทั้งการนาไม้ไปใช ้
ุ
้
ุ
์
ประโยชน เพื่อตอบค าถามและตอบสนองความต้องการของประชาชนอีกด้วย
ี
่
ี้
การศึกษาครั้งนมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรยบเทียบผลของขนาดไม้ทดลองที่แตกตาง
ึ
กันตอความทนทานตามธรรมชาตของไม้สะเดา และเพอศกษาขนาดของไม้ทดลองที่เหมาะสมใน
ื่
ิ
่
การศึกษาความทนทานตามธรรมชาต ิ
36

