Page 56 - แฟ้มสะสมผลงาน2.63
P. 56
๔. ครอู ธบิ ายเพมิ่ เตมิ ใหส้ มบูรณด์ ว้ ยส่อื การเรยี นรู้ Power point ของสานักพมิ พเ์ อมพนั ธ์
ขนั้ สรปุ
๕.นกั เรยี นทาใบงานท่ี ๒.๒ เร่อื งปญั หาสงั คม
-ชวั ่ โมงท่ี ๓ คณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นิยม-
ขนั้ นา
๑. นักเรยี นชมคลปิ วดิ โี อ .......สภาพสงั คมไทยในปจั จุบนั ...... จากนนั้ รว่ มกนั อภปิ รายในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี
• หากตอ้ งการใหส้ งั คมไทยดี ผคู้ นมคี วามสขุ ควรปลกู ฝงั คุณธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นิยมใดใหเ้ ยาวชน
(ดลุ ยพนิ ิจครู โดยมแี นวทางดงั น้ี ใชห้ ลกั ธรรมาธบิ าลในการปกครอง และสรา้ งคา่ นยิ มทเี่ ป็นประโยชน์ต่อ
สว่ นรวม คอื ความรบั ผดิ ชอบ ปฏบิ ตั ติ นตามกฎหมาย)
เช่อื มโยงเขา้ สบู่ ทเรยี น
ขนั้ สอน
๒. นักเรยี นทากจิ กรรม “คนในฝนั ” โดยมภี าพบุคคลสมมติ ๑ คน ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั กาหนดคณุ สมบตั ขิ องคนในฝนั ท่ี
สงั คมตอ้ งการ ๕ ประการ แลว้ เขยี นคุณสมบตั ไิ วบ้ นกระดาน (คณุ สมบตั ทิ สี่ งั คมตอ้ งการควรเป็นพฤตกิ รรมทเี่ ดน่ ชดั ไมใ่ ช้
คาวา่ คนดเี ท่านนั้ เช่น มคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเองและสงั คม ปฏบิ ตั ติ นตามกฎหมาย เป็นตน้ )
๓. แบ่งนักเรยี นออกเป็นกล่มุ กลุม่ ละ ๔-๕ คน รว่ มกนั ออกแบบ “แผนการสรา้ งคนในฝนั ” คอื ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุ่ม
เขยี นแนวทาง วธิ กี ารปลกู ฝงั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ มทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ คนในฝนั โดยศกึ ษาขอ้ มลู จากหนงั สอื เรยี นหน้าท่ี
พลเมอื งและศลี ธรรม ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ หน้า ๔๖-๕๓ แลว้ เขยี นแผนภาพลงบนกระดาษ A3
๔. สุ่มกล่มุ ตวั อยา่ งนาเสนอหน้าชนั้ เรยี น โดยมคี รเู พม่ิ เตมิ ใหส้ มบรู ณ์
ขนั้ สรปุ
๕. นกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายในประเดน็ “ค่านิยมสาคญั อย่างไร” (มแี นวทางคาตอบดงั น้ี คา่ นิยม คอื สงิ่ ทบี่ ุคคลยดึ ถอื วา่
เป็นสงิ่ ดี จงึ เป็นเครอื่ งกาหนดการกระทาของตนเอง ดงั นัน้ หากค่านยิ มทาใหเ้ กดิ ประโยชน์สงู สดุ แกค่ นส่วนใหญจ่ ะสง่ ผลให้
สงั คมเจรญิ กา้ วหน้า)
๖. นกั เรยี นทาใบงานท่ี ๒.๓ เร่อื งคา่ นิยมตวั เองสง่ ชวั่ โมงถดั ไป

