Page 161 - ฉบับที่ 100
P. 161

ี
 ู
 ื
 ื
 ึ
 ในสวนของปราชญแหงสงครามก็คือ ซุนวู ซ่งมีชีวิตอยตอจากเลาจ๊อ และขงจ๊อ จึงไดรับ  โมเมนตัม (Momentum) และหวงจังหวะ (Tempo) ท่เหมาะสมบนความสูญเสียชีวิต
 อิทธิพลโดยตรงมาจากทําการศึกษาสงครามและการเมืองจากแนวคิดของท้งสอง โดยเลาจ๊อ  ท่นอยท่สุด คําถามตอมาคือ อะไรคือความเหมาะสม ท้งน้ธรรมชาติของสงค รามจะเปนตัว
 ั
                                                   ั
                ี
           ี
                                                     ี
 ื
                                                           ี
 ี
 อยรวมสมัยเดียวกันกับซุนวู โดยเกิดท่แควนฉ กอนคริสตศักราชราว ๕๗๖ ป สวนซุนว ู  บอกถึงความเหมาะสม น่นก็คือสถานการณโดยรอบ โดยซุนวูเนนไปท่สถานการณทางการเมือง
                            ั
 ู
 ู
           ั
 ื
                                             ื
 เกิดในป  ๕๓๕ กอน คริสตศักราช ผลงานการเขียนตําราของเลาจ่ออันเปนแบบแผนในลัทธิเตา   ท้งภายในรัฐและระหวางรัฐวาสถานการณเอ้ออํานวยใหมีชองวางของการใชสงคราม
 ็
 ื
                                     ึ
 ี
                ื
 ิ
 
 
 ั
 ่
                                                              ี
                                                                    ื
 นนกคอ “เตาเตอจง” เปนวรรณกรรมทางศาสนาเตาท่นักคิดทุกคนในยุคน้นตองทําการศึกษา  เปนเคร่องมือไดหรือไม (Space) ซ่งสอดคลองกับหลักการของเตาท่วา “เม่อกลมกลืน
 ั
                                                                  ๕
 ด้งน้นการทําความเขาใจตําราพิชัยสงครามของซุนวูจึงไมสามารถละเลยการทําความเขาใจ  กับธรรมชาติ ยอมกลมกลืนกับเตาดวย เม่อกลมกลืนกับเตา ผน้นก็เปนอมตะ”  และหลักการ
                                        ื
                                                       ั
 ั
 ั
                                                      ู
 ั
                                                                         ู
 ิ
           ี
 
 ิ
 แนวความคดของลทธเตาได เพราะแนวคิดของเตามีอิทธิพลอยางมากตอบริบททางสังคม  ท่สําคัญของตําราพิชัยสงครามของซุนวูท่วาสถานการณการเมืองยอมมีการเปล่ยนแปลงอยเสมอ
                                                                 ี
                                      ี
           ึ
 การเมืองในยุคนั้น ๒  ซ่งสอดคลองกับคัมภีรของลัทธิเตาท่วา “แมแตพายุจัดยังพัดไมถึงเชา แมแตพายุฝนยังตก
                                     ี
                                                 ๖
                                                           ี
                               ิ
                                     ี
 ตัวอยางของแนวความคิดเตาที่เห็นไดในตําราพิชัยของซุนวู  ไมถึงวัน ใครเลาทําใหเกิดส่งเหลาน้ คือ ธรรมชาติ”  นอกจากน้ยังมีความสอดคลองกับ
          การใหคุณคาของชีวิตในลัทธิเตาท่ตอตานสงคราม ท่ไดกลาวไววา “สงคราม คือ ลางราย”
                                   ี
                                                ี
    คัมภีรเตาเตอจิงเปนคัมภีรหลักของลัทธิเตา โดยคําวา เตา แปลตามภาษาไดวา วิถ  ี  จึงเห็นไดวา แนวความคิดของลัทธิเตามีอิทธิพลอยางย่งตองานเขียนของซุนวูอยางแทจริง
                                                   ิ
 ั
 ในทางศาสนาน้นหมายถึง ธรรม เตาจึงสามารถแปลไดวา วิถีธรรม ในคัมภีรดังกลาวฯ   ในหลาย ๆ ประเด็น
 ี
 ี
 ยังไดกลาวไววา “เตาท่กลาวได มิใชเตาท่แทจริง” ดังน้นเตาจึงเปนสภาวะและไมเปนสภาวะ
 ั
 ๓
 อยางหน่งอยางใดโดยธรรมชาติ ไมสามารถปรุงแตงหรือขัดขืนได  จึงกลาวไดวาเตา  สรุป
 ึ
 
 ั
 ั
 ของสงครามน้นก็คือ ธรรมชาติของสงคราม (Nature of War) น่นเอง และมนุษยสามารถ     จากท่ไดกลาวมาจะเห็นไดวาท้งหวงเวลาการมีอยของนักคิดท้งสองท่รวมสมัยกันมา
                                       ั
                                                                  ี
                                                    ู
                     ี
                                                             ั
 ู
 เรียนรเตาไดผานการใชเหตุผล ดังน้นเราจึงสามารถเรียนรธรรมชาติของสงครามน้นได   สภาพของบริบทการเมืองในสมัยน้นอยในภาวะสงครามท่ผออนแอตองเอาตัวรอดและการเปน
 ั
 ู
 ั
                                                   ี
                                  ั
                                                    ู
                                      ู
 ู
 ึ
 ั
 ในสวนคําวา เตอ น้นแปลวา คุณธรรม ซ่งก็คือ วิธีการเขาถึงความจริง หรือการรวิธีปฏิบัต ิ  สังคมเกษตรกรรมท่พ่งพาแรงงานมนุษยเพียงอยางเดียว สภาวะแวดลอมน้มีผลอยางย่ง
                          ึ
                                                                   ี
                                                                            ิ
                         ี
 ึ
 ตอธรรมชาติ ซ่งเตอน้นจะทําหนาท่เปนตัวเช่อมเตาเขากับสรรพส่งตาง ๆ จึงนําไปส  ู  ตอความคิดของนักคิดทั้งสอง และท้งสองทานเองยังมีความเช่อมโยงของตรรกะโดยการรับ
 ิ
 ี
 ื
 ั
                                     ั
                                                       ื
 ิ
 ํ
 ี
 
 ็
 การอธบายความเปนไปของส่งตาง ๆ ในทางสงครามจึงอาจกลาวไดวา เตอ กคอ วธการทา  เอามรดกทางความคิดมาขยายความตอ โดยสามารถถือไดวา เลาจ่อไดเปนแกนความจริง
 
 
 ื
 
 ิ
 ิ
 
                                                            ื
 สงคราม (Warfare)   ของความคิด คือ เตา สวนซุนวูนั้นเปนการนําไปสูการปฏิบัติ คือ เตอ
 ั
 ิ
    ในธรรมชาติตามแนวคิดของลัทธิเตาน้นสรรพส่งลวนมีเหตุมาจากหยินและหยาง
 ี
 (แขงและออน) โดยเทยบเอา “ความออนแอเทยบไดกับเตา ซงมลกษณะเทยบเคยง  เอกสารอางอิง
 
 ี
 
 ั
 ี
 
 ็
 ึ
 ี
 ่
 ี
 
 ๔
 ไดกับน้า”  เพราะวานํ้าจะมีลักษณะที่ออนแตก็สามารถมีพลังในการทําลายสิ่งกีดขวางที่แข็ง     ๑   Essentials of Chinese Military Thinking, หนา ๑๑
 ํ
 ี
 ไดดวยการแทรกซึมเขาไปทําลายจุดท่ออนแอตาง ๆ ของโครงสรางได เชนเดียวกับตํารา     ๒   Key Sun, Journal of Theoretical and Philosophical Psy. Vol.15 No.2 1995, How to
 ี
 ี
 ึ
 ั
 พิชัยสงครามซุนวูท่มีลักษณะออนตัวสูง ท้งน้เพราะตําราพิชัยสงครามของซุนวูท่ถูกแตงข้น         Overcome Without Fighting: An Introduction to the Taoist Approach to Confl ict
 ี
 ั
 ื
 ั
 ี
 ั
 ู
 ํ
 ู
 เพ่อนําเสนอตออองแหงรัฐว ขณะน้นรัฐวน้นเปนรัฐท่ออนแอ ดังน้นซุนวูจึงไดจะใชน้า        Resolution, หนา ๑๖๑
                          ิ
                                                ิ
 เปนการยกตัวอยางในตําราพิชัยสงครามท่ไดนําเสนอ  ทําใหเห็นวาแนวคิดของซุนว ู     ๓   ทพ.บัญชา ศิรไกร, เอกสารประกอบการสอน วชา POL4111 แนวความคิดทางการเมืองของ
 ี
 เปนการตีความเตาไปสูแนวทางการทําสงครามของผูที่ออนแอ (รัฐวู) คือ การบรรลุวัตถุประสงค       ๔   จีนยุคโบราณ, หนา ๖๓-๖๗
 การเมืองดวยการเขาไปทําลายจุดออนแอ (Weakness Point) ของฝายตรงขามโดยใช      ๕   Ibid, หนา ๑๖๓
                                 
                                  
                                ี
                 Khon-Sa-Mun, คมภรเตาเตอจง 81 บท เหลาจอ, <http://khonsamun.blogspot.
                              ั
                                                   ื
                                                   ่
                                     
                                       ิ
                 com/2014/08/TaoTeChing.html>
               ๖   Ibid
 ¹ÒÇÔ¡Ò¸Ô»˜µÂÊÒà                                               ¹ÒÇÔ¡Ò¸Ô»˜µÂÊÒÃ
  158 ¤Åѧ»˜ÞÞÒ ¾Ñ²¹Ò¼ÙŒ¹íÒ                                     ¤Åѧ»˜ÞÞÒ ¾Ñ²¹Ò¼ÙŒ¹íÒ   159
   156   157   158   159   160   161   162   163   164   165   166