Page 130 - แผนการจัดการเรียนรู้ ม.ปลาย
P. 130
137
ใบความรู้ที่ 1
1. สาเหตุของการทุจริต
สาเหตุของการทุจริต อาจเกิดขึ้นได้ในประเทศที่มีสถานการณ์ดังต่อไปนี้
1.1 มีกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อกำหนดจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการทางธุรกิจหากมาตรการหรือข้อกำหนดดังกล่าวมีความ
ซับซ้อน คลุมเครือ เลือกปฏิบัติเป็นความลับหรือไม่โปร่งใส จะส่งผลให้เป็นต้นเหตุของการทุจริตได้
1.2 มีสถานการณ์ โอกาส หรือมีกฎ ระเบียบต่าง ๆ ที่นำไปสู่การทุจริตได้
1.3 กฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมไม่มีความเข้มแข็ง ตลอดจนการพัฒนาให้ทันสมัย
2. ทิศทางการป้องกันการทุจริตในประเทศไทย
ปัจจุบันประเทศไทยมีหลายหน่วยงานเกิดการตื่นตัวพยายามเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาการทุจริต โดยร่วมกันสร้างเครื่องมือ กลไก
และกำหนดเป้าหมายสำหรับการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในฐานะที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและ
ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงานป.ป.ช.) เป็นองค์กรหลักด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตได้บูรณาการการทำงานด้าน
การต่อต้านการทุจริตเข้ากับทุกภาคส่วน ดังนี้
2.1 กำหนดเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 หมวดที่ 4 หน้าที่ของประชาชนชาว
ไทยว่า “... บุคคลมีหน้าที่ไม่ร่วมมือหรือสนับสนุนการทุจริตและประพฤติมิชอบทุกรูปแบบ” หมวดที่ 5 หน้าที่ของรัฐว่า “รัฐต้องส่งเสริม
สนับสนุนและให้ความรู้แก่ประชาชนถึงอันตรายที่เกิดจากการทุจริตและประพฤติมิชอบทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จัดให้มีมาตรการและ
กลไกที่มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันและขจัดการทุจริตอย่างเข้มงวด รวมทั้งกลไกในการส่งเสริมให้ประชาชนรวมตัวกันเพื่อมีส่วนร่วมในการ
รณรงค์ให้ความรู้ต่อต้านการทุจริต หรือชี้เบาะแสโดยได้รับความคุ้มครองจากรัฐ ตามที่กฎหมายบัญญัติ”
2.2 กำหนดให้มียุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหา 3 ยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย
1) ยุทธศาสตร์การปลูกฝัง “คนไทยไม่โกง” เพื่อปฏิรูป “คน” ให้มีจิตสำนึกและสร้างพลังร่วมเพื่อแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน
2) ยุทธศาสตร์การป้องกันด้วยการเสริมสร้างสังคมธรรมาภิบาล เพื่อปฏิรูประบบและองค์กรเพื่อสร้างธรรมาภิบาลในทุกภาคส่วน
3) ยุทธศาสตร์การปราบปราม เพื่อปฏิรูประบบและกระบวนการจัดการต่อกรณีการทุจริตคอร์รัปชันให้มีประสิทธิภาพ
2.3 กำหนดไว้ในกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) โดยมีวิสัยทัศน์ “ประเทศไทย มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศ
พัฒนาแล้วด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง”
2.4 กำหนดให้มีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) ว่าด้วยเรื่องสังคมไทยมีวินัย โปร่งใส ยึดมั่นใน
ความซื่อสัตย์ ยุติธรรม รวมทั้งสร้างความเข้มแข็งเป็นภูมิคุ้มกันในสังคมไทย ครอบคลุมภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรพัฒนาเอกชน และภาค
ประชาชน พร้อมทั้งสร้างพลังการขับเคลื่อนค่านิยมต่อต้านการทุจริตโดยปลูกฝังให้คนไทยไม่โกง
้
2.5 กำหนดให้มีโมเดลประเทศไทยสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน (Thailand 4.0) เป็นโมเดล ที่นอมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
มาเป็นแนวคิดหลักในการบริหารประเทศ ถอดรหัสออกมาเป็น 2 ยุทธศาสตร์สำคัญ คือ
1) การสร้างความเข้มแข็งจากภายใน (Strength From Within)
2) การเชื่อมโยงกับประชาคมโลกในยุทธศาสตร์การสร้างความเข้มแข็งจากภายในThailand 4.0 เน้นการปรับเปลี่ยน 4 ทิศทางและเน้น
การพัฒนาที่สมดุลใน 4 มิติ มิติที่หยิบยก คือ การยกระดับศักยภาพและคุณค่าของมนุษย์ (Human Wisdom) ด้วยการพัฒนาคนไทยให้
เป็น “มนุษย์ที่สมบูรณ์” ผ่านการปรับเปลี่ยนระบบนิเวศน์การเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างแรงบันดาลใจบ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์ ปลูกฝังจิต
สาธารณะยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัย มีคุณธรรมจริยธรรม มีความรับผิดชอบ เน้นการสร้างคุณค่าร่วม และ
ค่านิยมที่ดี คือ สังคมที่มีความหวัง (Hope) สังคมที่เปี่ยมสุข (Happiness) และสังคมที่มีความสมานฉันท (Harmony)
์
2.6 กำหนดให้มียุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 - 2564) โดยกำหนดวิสัยทัศน์
“ประเทศไทยใสสะอาด ไทยทั้งชาติต้านทุจริต” (Zero Tolerance & Clean Thailand) หมายความว่า ประเทศไทยในระยะ 5 ปีข้างหน้า
จะมุ่งสู่การเป็นประเทศที่มีมาตรฐานทางคุณธรรม จริยธรรม เป็นสังคมมิติใหม่ที่ประชาชนไม่เพิกเฉยต่อการทุจริตทุกรูปแบบ โดยได้รับ
ความร่วมมือจากฝ่ายการเมืองหน่วยงานของรัฐ ตลอดจนประชาชน ในการพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของชาติ และประชาชน เพื่อให้
ประเทศไทยมีศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิในด้านความโปร่งใสทัดเทียมนานาอารยประเทศ

